พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พงส.ผนพ.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายจำนวน 35 ราย ซึ่งเป็นคนไทย มาแจ้งความ โดยทุกราย ถูกเจะข้อมูลของบัญชีเงินในธนาคารของตัวเอง ในลักษณะที่ว่า หากผู้ใดมากดเงินจากตู้เอทีเอ็มในอาคารออล ซีซั่นส์ และอาคารโรเล็กซ์ ถ.วิทยุ เงินจะหายจากบัญชีของตัวเองรายละตั้งแต่ 30,000 - 70,000 บาท ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเงินหายไปได้อย่างไร โดยทางตำรวจได้ตรวจสอบ
เบื้องต้น พบว่า เงินถูกเบิกในต่างประเทศ คือ ประเทศยูเครน ทั้งสิ้น ทุกราย ซึ่งขณะที่ธนาคารที่ถูกแฮกข้อมูลดังกล่าว กำลังเร่งตรวจสอบว่า เกิดอะไรขึ้น ดังนั้น จึงขอเตือนให้ประชาชน ในช่วงนี้ อย่าไปใช้ตู้เอทีเอ็ม ใน 2 อาคารดังกล่าว สักระยะ จนกว่าจะทราบข้อมูลที่แท้จริง
ความคืบหน้า กรณีโจรไฮเทคจากต่างประเทศ เจาะข้อมูลเอทีเอ็มของคนไทย ย่านถนนวิทยุ ซึ่งมีผู้เสียหายมาแจ้งความกับตำรวจแล้วกว่า 35 รายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า คนร้ายมีพฤติการณ์ใช้เครื่องสแกนเนอร์ในการแฮกข้อมูล โดยเมื่อประชาชนใช้ตู้เอทีเอ็มและไม่ได้มีการใช้มือป้องตามที่ทางธนาคารแนะนำ เมื่อลูกค้ากดเสร็จ แฮกเกอร์ก็จะทำการปลอมแปลงข้อมูลในบัตร และทำให้เงินในบัญชีสูญหายในทันที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางธนาคารยืนยัน พร้อมคืนเงินลูกค้าที่สูญหายจากบัญชีทุกบาทอย่างแน่นอน และทางธนาคารมีทีมเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบและเฝ้าระวัง กำลังเร่งตรวจสอบหาตัวคนร้าย และบล็อกข้อมูลลูกค้า ไม่ให้ถูกโจรกรรมเงินได้อีก
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารขอให้ประชาชนใช้มือป้องเมื่อใช้ธุรกรรมผ่านเอทีเอ็ม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสบัตร ซึ่งถือเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด