ชายแดนสุรินทร์ยังสงบ ชาวบ้านหวั่นสงครามวอนอย่าขัดแย้ง

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ พบว่ายังคงเป็นไปตามปกติ โดยเฉพาะที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง
 
ชาวกัมพูชายังคงข้ามแดนเข้ามาซื้อสินค้าที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมเช่นเดียวกับชาวไทยยังคงเดินทางไปซื้อสินค้าเหมือนทุกวันเช่นกัน ขณะที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ต้องการให้เกิดสงคราม เพราะจะทำให้ชาวบ้านตามแนวชายแดนต้องอยู่อย่างลำบาก เหมือนสงครามเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ต้องปิดร้านค้าอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนกรณีคดีปราสาทพระวิหารอยากให้ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาดูแลร่วมกันมากกว่าที่จะแบ่งแยกแล้วเกิดความขัดแย้ง

ส่วนที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง และปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก ยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตามปกติ

แต่พบว่าช่วงนี้นักท่องเที่ยวบางตา ซึ่งอาจจะเกิดจากปราสาทพระวิหารปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมผามออีแดง เพื่อความปลอดภัยจนกว่าศาลโลกจะตัดสินคดีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย. 56 ขณะที่ทหารไทยยังคงประจำการตามฐานที่มั่นอย่างปกติในทุกจุดตลอดแนวชายแดน และยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทหารกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ทาง จ.สุรินทร์ ได้เตรียมความพร้อมเรื่องการอพยพประชาชน
 
พร้อมกำชับให้ 4 อำเภอที่ติดชายแดนประกอบด้วย อ.พนมดงรัก อ.กาบเชิง อ.สังขะ และ อ.บัวเชด ทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าอย่าเชื่อข่าวลือที่อาจมีมือที่ 3 มาสร้างกระแสข่าวว่าจะเกิดสงคราม แต่หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยขอให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศทางหอกระจายข่าวแจ้งให้ชาวบ้านทราบ ขณะที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้สำรวจวัสดุอุปกรณ์ป้องกันภัยต่างๆ อย่างเช่นหลุมหลบภัยและปรับปรุงให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ พร้อมสร้างหลุมหลบภัยเพิ่มเติมจากเดิม 299 แห่ง เป็น 497 แห่งแล้ว