เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆนี้ทางดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากบุคลซึ่งอ้างว่าเป็นชาวต่างชาติและอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต กว่า 10 ปี ผ่านทางเว็บไซต์ของดีเอสไอ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหากลุ่มบุคคลทั้งชายและหญิงจำนวนมากที่ออกมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในซอยบางลา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต
เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว มีชายหญิงเป็นร้อยคนมาเดินเพ่นพ่านอยู่ในซอยบางลาและพยายามจะขายของต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างความรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวซึ่งกลุ่มที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือการเร่ขาย Sex shows,Fuckin show, ping pong show รวมทั้งการถ่ายรูปกับสัตว์ป่าคุ้มครองหลักๆ อาทิ อิกัวน่า ลิงตัวเล็ก(ลิงลม) โดยคนกลุ่มนี้ ร้อยละ99 ไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ ตรงบริเวณถนนบางลา แต่กลับได้รับอนุญาตให้ขายของได้ทุกที่
เนื่องจากจะมีกลุ่มคนพวกนี้เข้ามาสอบถามตลอด ทุกๆระยะทาง 3 เมตรว่าชักชวนดูโชว์ปิงปอง หรือโชว์ลามกต่างๆจนทำให้มีนักท่องเที่ยวเริ่มบ่นและรู้สึกถึงความรำคาญจนไม่อยากกลับมาเที่ยวจังหวัดภูเก็ตอีกต่อไป ประกอบกับยังมีกลุ่มรักร่วมเพศหรือกลุ่มเกย์ที่มายืนเป็นแถวขวางถนนจนทำให้นักท่องเที่ยวต้องหยุดเดินและจะผ่านไปได้ก็ต้องรอให้กลุ่มพวกนี้เปิดเส้นทางให้เท่านั้น โดยกลุ่มเกย์ที่มักจะสวมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้าและมีตัวเลขสกรีนด้านหลังเสื้อจะมีรายได้จากการโกงเงินนักท่องเที่ยว ซึ่งพวกเขาจะพาชาวต่างชาติไปที่บาร์ชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งจะจำหน่ายเบียร์และสุราในราคาที่สูงมาก เช่น ปกติร้านทั่วไปจะจำหน่ายเบียร์ขวดละ 150 บาท แต่ร้านดังกล่าวจะขายที่ราคา 300- 1,000 บาทเฉลี่ยแล้วในช่วงฤดูท่องเที่ยวกลุ่มรักร่วมเพศกลุ่มนี้จะสามารถทำเงินเดือนได้สูงถึง100,000 บาท" พ.ต.ท. สมบูรณ์ เผย
และผู้บังคับการตำรวจภูธรรับทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วซึ่งทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตรับปากว่าจะมีการกวดขันตรวจสอบให้เข้มงวด ซึ่งนอกจากปัญหาการร้องเรียนดังกล่าวขณะนี้จากการที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันทำงานอย่างเข้มงวดพบว่าปัญหาการร้องเรียนเรื่องต่างๆของจังหวัดภูเก็ตมีแนวโน้มที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยขณะนี้เรื่องร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการลักลอบปล่อยน้ำเสีย เรื่องของเสียงดังสร้างความรำคาญ ซึ่งปัญหาร้องเรียนส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าตอง ส่วนกลุ่มแท็กซี่มิเตอร์พบว่าปัญหาการร้องเรียนลดลง
ซึ่งในการจับกุ่มนายป้อมและนายเสริม คิวรถแท็กซี่ที่ห้างเซ็นทรัลนั้นพบว่าขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีอยู่ ซึ่งในวันอาทิตย์นี้ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะนำตัวผู้เสียหายจำนวน 5 คน ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ตำรวจกองปราบปรามด้วย