โบกี้หลุดพุ่งชนสนั่นหัวลำโพง

ชี้ขอเกี่ยวมีปัญหาไม่ใช่วินาศกรรม


แตกตื่นทั้งหัวลำโพง ตู้โบกี้ขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก หลุดจากขอเกี่ยวรถลากจูงขณะถอยเข้าเทียบชานชาลา พุ่งไถลไกล 15 เมตร ขึ้นไปชนกำแพงห้องน้ำ ทะลุห้องขายตั๋ว โชคดีไม่มีใครสังเวยชีวิต หรือบาดเจ็บ

เพราะขณะเกิดเหตุไม่มีผู้โดยสารอยู่บนขบวนรถไฟ ตร.สอบพนักงานขับรถว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือเป็นเพราะประมาท แต่ยืนยันไม่ใช่การก่อวินาศกรรม สาวพนักงานขายตั๋วเผยนาทีระทึก เผยมีเด็กชาย 2 คน รอดตายหวุดหวิด

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 28 มี.ค.

พล.ต.ต.วราวุธ พุกประยูร ผบก.รฟ. ได้รับรายงานเหตุรถไฟโดยสารพุ่งชนชานชาลาสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. หลังรับรายงานจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.ท.ประยูร ฤทธิกุล หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.นพวงศ์

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ

บริเวณชานชาลาที่ 4 พบโบกี้รถนอนปรับอากาศ ชั้น 1 หมายเลข 1014 ของขบวนรถไฟด่วนพิเศษ ขบวนที่ 37 วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก พุ่งเข้าชนด้านหลังห้องน้ำติดกับห้องจำหน่ายตั๋ว มีประชาชนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ในเบื้องต้นทราบว่าไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

จากการสอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

น.ส.ฐิติวรดา สุขประเสริฐ อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วรถไฟให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเข้าเวรห้องจำหน่ายตั๋วตั้งเวลา 05.00-14.00 น. ช่วงบ่ายหลังจากออกเวรแล้วได้ออกมานั่งรอขบวนรถไฟดังกล่าวด้านหลังห้องจำหน่ายตั๋ว เพื่อรอขึ้นรถไฟกลับบ้านไปลงที่สถานีบางซื่อ

ขณะนั่งอยู่เพลินๆ

ได้ยินเสียงดังโครมและสั่นสะเทือนไปหมด หันไปดูก็พบตู้โบกี้รถไฟพุ่งไถลเข้ามาชนผนังห้องน้ำ พอตั้งสติได้จึงรีบกระโดดหนี รอดจากการถูกชนมาได้หวุดหวิด


ด้านจ.ส.ต.อดุลย์ นุชสระ ผบ.หมู่ กก.1 บก.รฟ.

กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังออกเดินตรวจรอบบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง มาถึงบริเวณชานชาลาที่ 4 สังเกตเห็นว่าโบกี้รถไฟขบวนดังกล่าว กำลังเคลื่อนผ่านเครื่องห้ามล้อและแป้นปะทะอย่างช้าๆ ด้วยความแรงผิดสังเกต ตนเห็นเด็ก 2 คนกำลังเดินผ่านจุดดังกล่าว จึงร้องตะโกนให้รีบวิ่งหนี

ด.ต.ธนน คุณสมบัติ กล่าวว่า

ขณะเกิดเหตุกำลังปฏิบัติหน้าที่เดินดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในชานชาลาหัวลำโพง ขณะนั้นเห็นโบกี้ดังกล่าวถอยมาและมีเด็กอายุ 7-8 ขวบ 2 คนเดินผ่านด้านหลังพอดีกับที่โบกี้รถไฟจะเข้ามาปะทะ จังหวะนั้นจ.ส.ต.อดุลย์ ซึ่งออกตรวจตราบริเวณดังกล่าวเช่นกัน เห็นเหตุการณ์ได้ตะโกนให้ทั้ง 2 คนวิ่งหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อมา พล.ต.ต.คัคคพงศ์ ศรีพาณิชย์ รอง ผบช.ก.

เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการสอบสวนจะเรียกนายมานพ ทัศนคีรี พนักงานขับรถฝ่ายช่างกล คนขับขบวนรถที่เกิดเหตุมาสอบปากคำอย่างละเอียดว่าสาเหตุเกิดจากความประมาท หรืออุบัติเหตุ และจะได้ตรวจสอบตะขอเกี่ยวระหว่างโบกี้รถกับหัวรถลากจูงว่าต่อเชื่อมกันอย่างดีหรือไม่ ก่อนจะสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

พล.ต.ต.วราวุธ พุกประยูร ผบก.รฟ.

กล่าวว่า สำหรับขบวนโบกี้รถไฟดังกล่าวเป็นขบวนรถไฟที่ 37 วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก มีทั้งหมด 12 โบกี้ เป็นโบกี้ธรรมดา 6 โบกี้ และโบกี้ตู้นอน 6 โบกี้ มีกำหนดเข้าเทียบชานชาลา เวลา 14.00 น. และออกจากชานชาลา เวลา 15.10 น. มีนายมานพ ทัศนคีรี อายุ 53 ปี

เป็นพนักงานขับรถสับเปลี่ยน

ก่อนเกิดเหตุนายมานพ ได้นำโบกี้ทั้งหมด 12 โบกี้ถอยเข้าเทียบชานชาลาที่ 4 ระหว่างนั้นปรากฏว่าขอสับระหว่างรถลากจูงกับโบกี้หลุดออก ทำให้โบกี้ไหลไปชนเครื่องห้ามล้อรางรถไฟ ชนแป้นปะทะ จากนั้นไถลขึ้นไปเกยบนชานชาลา ชนกับกำแพงผนังห้องน้ำทะลุเข้าห้องขายตั๋ว เป็นระยะทางประมาณ 15 เมตร


พล.ต.ต.วราวุธ กล่าวว่า

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พนักงานรถไฟได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ส่วนคนอื่นๆ ไม่ได้รับอันตราย เนื่องจากไม่มีผู้ใดอยู่บนรถไฟ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้พนักงานสอบสวน สอบสวนนายมานพ ทัศนคีรี พนักงานขับรถไฟถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

โดยเบื้องต้นยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ

และไม่ใช่การก่อวินาศกรรม ขณะนี้พนักงานการรถไฟฯ ได้ทำการเปลี่ยนโบกี้รถไฟขบวนสุดท้าย และจัดการนำวัสดุที่หลุดร่วงไปบนรางออก เพื่อให้การสัญจรเป็นไปตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศเลื่อนเวลาการเดินทางของขบวนรถไฟดังกล่าวออกไป จากนั้นเจ้าหน้าที่รถไฟได้นำขบวนโบกี้ไปสับเปลี่ยนรางเข้าเทียบชานชาลาที่ 3 เพื่อรับผู้โดยสารออกจากสถานีหัวลำโพง

นายถวิล สามนคร

รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ทราบว่า สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากการที่ข้อต่อเกี่ยวระหว่างขบวนรถไฟหัวรถจักร และตู้ขบวนโดยสารขบวนที่ 1 หลุดออกจากกันในช่วงถอยเข้าชานชาลา ทำให้ขบวนรถโดยสารทั้งหมด 12 ตู้

หลุดออกจากตัวหัวรถจักร

และเกิดแรงเฉื่อยถอยเรื่อยลงมาจนถึงชานชาลา และเลยไปถึงห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารฝั่งชานชาลา จนทำให้เกิดความเสียหายขึ้น ล่าสุดขณะนี้กำลังนำขบวนรถตู้สุดท้ายที่ชนกับห้องจำหน่ายตั๋วออก เพื่อสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้ทราบตัวเลขที่แท้จริง



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์