'รพ.ศูนย์อุดรฯ'สรุปยอดคนป่วยจากประทัดระเบิดใส่ แค่ช่วงออกพรรษาหามส่งรพ.แล้ว 63 ราย หนักสุดเป็นเด็กชายอายุ 12 ปี ต้องนอนไอซียู
21 ต.ค.56 นพ.มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลออกพรรษาที่ผ่านมา โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี รับผู้ป่วยที่ถูกประทัดระเบิดใส่มือ ตา ผิวหนัง ลำตัว เข้าทำการรักษารวม 63 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่อาการหนักต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 53 ราย และทำการรักษากลับบ้านไปแล้ว 37 ราย ยังเหลือผู้ป่วยที่มีอาการสาหัสนอกพักรักษาตัวขณะนี้ 16 ราย
“โดยมีผู้ป่วยอาการหนักสุด เป็นเด็กชายอายุ 12 ปี ที่ส่งตัวจาก จ.เลย โดยญาติผู้ป่วยบอกว่า ผู้ป่วยนำประทัดแบบลูกบอล 15 ลูก มัดรวมกัน และระเบิดใส่ตัวเอง บาดเจ็บสาหัส ถูกสะเก็ดเข้าที่หน้าอกเป็นแผลเหวอะหวะ และสะเก็ดเข้าที่ตา ยังไม่ทราบว่าจะบอดหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และผู้ป่วยชายอายุ 29 ปี ที่นำประทัดมาแกะทำใหม่ให้เป็นประทัดยักษ์ โดยได้ระเบิดใส่ลำตัวไหม้ ถูกอวัยวะเพศ และเป็นบาดแผลตามร่างกาย ที่ถูกสะเก็ดไฟ จากความรุนแรงของประทัด"นพ.มนัส กล่าว
นพ.มนัส กล่าวต่อว่า วันออกพรรษานับเป็นเทศกาลหนึ่ง
ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินมากโดยเป็นผู้ป่วยที่ถูกเพลิงไหม้ และการบาดเจ็บจากการจุดประทัด โดยเฉพาะการจุดประทัดที่มีสายชนวนสั้น ตนต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง จัดให้ประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ เป็นวัตถุอันตราย ที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง ซึ่งแต่ละปีโรงพยาบาลทั่วประเทศ จะต้องรับผู้ป่วยจากการเล่นประทัดแตกใส่เป็นจำนวนมาก และมรอีกหลายคนที่ต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี มีตัวเลขสถิติของผู้บาดเจ็บจากการเล่นประทัดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง
ที่เข้ารับการรักษาตัวจากการบาดเจ็บจากการเล่นประทัด 3 ปีย้อนหลัง โดย 2553 มีผู้เข้ารับการรักษาจำนวน 101 ราย ปี 2554 จำนวน 86 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ที่บาดเจ็บตาบอด 1 ราย และ ปี 2555 มีผู้บาดเจ็บ 79 ราย ส่วนมากผู้บาดเจ็บจะมีอายุในช่วง 8-13 ปี ที่เป็นผู้บาดเจ็บถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์