บึ้มเละโรงงานพลุเถื่อนสารภี เชียงใหม่ ปู่-หลานดับ 2 ศพ แถมยังมีคนเจ็บอีก 2 ราย เผยบ้าน
เกิดเหตุเป็นที่เก็บพลุ-ดอกไม้ไฟที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้างบ้านเป็นร้านอ๊อกเหล็ก คาดสะเก็ดไฟกระเด็นข้ามกำแพงมาถูกกองพลุบึ้มวินาศ ด้านผู้ว่าฯ รุดตรวจสั่งล้อมคอก ให้ตรวจสอบโรงงานพลุทั่วเมืองเชียงใหม่ หากพบไม่มีใบอนุญาตสั่งปิดทันที ด้านตร. เผยมูลค่าเสียหายรวม 10 ล้านบาท เตรียมสอบสวนหาสาเหตุแท้จริงพร้อมดำเนินคดี คนผิด
เมื่อ เวลา 12.30 น. วันที่ 18 ต.ค. พ.ต.ท. คะนองศักดิ์ กุศล พนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่
รับแจ้งมีเหตุร้านขายดอกไม้ไฟและทำพลุระเบิด ที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลตำบลสารภี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พล.ต.ต.กริช กิตติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเชียงใหม่ และแพทย์เวรจากร.พ. สารภีเชียงใหม่
ที่ เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ด้านหน้าเป็นร้านขายของชำ ด้านหลังต่อเติมเป็นที่ผลิตโคมไฟและเก็บดอกไม้ไฟ
แรงระเบิดทำให้สินค้าในร้านพังเสียหายและเกิดเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงโดยใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือนายอารีย์ เลิศรัตน์ อายุ 70 ปี น.ส.รัตนา เฟืองขจรจินดา อายุ 31 ปี ถูกไฟคลอกที่ใบหน้า แขนขาอาการสาหัส ส่วนอีกคนเป็นด.ช.อายุ 7 ขวบ ลูกน.ส.รัตนา บาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำส่งร.พ.สารภี แต่นายอารีย์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตขณะนำส่งร.พ. นอกจากนี้พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย คือ นายมนัสวิน จันทร์ประกายแสง อายุ 21 ปี หลานของนายอารีย์
ส่วนความเสียหายพื้นที่โดยรอบเสียหายประมาณ 100 ตร.ม. รถยนต์กระบะ 1 คัน รถเก๋ง 1 คัน เสียหาย
สอบ สวนนายเกริกเกียรติ จันทร์ประกายแสง เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เผยว่า ข้างบ้านเป็นร้านอ๊อกเหล็ก เชื่อว่าประกายไฟกระเด็นเข้ามาตกในบ้านซึ่งเป็นที่เก็บพลุและดอกไม้ไฟ จนทำให้เกิดเหตุพลุระเบิด โดยนายมนัสวินนั่งเล่นเกมอยู่ชั้นล่าง ส่วนนายอารีย์อยู่ชั้นบน เมื่อเกิดสะเก็ดไฟมาโดนดินปืนที่ทำพลุทำให้เกิดระเบิดดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่วิทยาการเชียงใหม่ จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุในครั้งนี้
นาย วิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นโรงงานดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการทำพลุ
ส่วนสาเหตุจะให้ตำรวจวิทยาการเข้าตรวจสอบ เหตุดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ และจะสั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอเร่งสำรวจโรงงานพลุทุกแห่ง หากไม่ได้รับอนุญาต จะให้ยุติดำเนินการทันที ส่วนที่ได้รับอนุญาตก็ให้ตรวจสอบมาตรฐาน อีกทั้งโรงเก็บพลุต่างๆ จะต้องไม่อยู่ในพื้นที่ชุมชน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็งแล้ว สำหรับจังหวัดเชียงใหม่มีโรงงานพลุหลายแห่ง และเคยเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิดหลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทงและเทศกาลขึ้นปีใหม่ ซึ่งประชาชนจะนิยมจุดพลุและปล่อยโคมลอย
พล.ต.ต.กริชกล่าวว่า เบื้องต้นค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยสาเหตุการเกิดประกายไฟจนเป็นเหตุให้ระเบิด
ตอนนี้สั่งการให้ตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่วิทยาการว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจาก ไหนอย่างไรเพื่อจะได้เอาคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพราะหากประกายไฟเกิดจากการก่อสร้าง ของบ้านที่ติดกัน ต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
