หนุ่มควงมีด จี้จับตัวพี่สาว ขอเงิน 1 ล้าน ช่วย ´ทักษิณ´
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มี.ค. พ.ต.ท.วินัย ตรีราภี สวป.สภ.อ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่งใช้มีดดาบเป็นอาวุธจี้จับพนักงานของบริษัทไทยเรย่อน จำกัด (มหาชน) เลขที่ 25 หมู่ 1 ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง ไว้เป็นตัวประกัน จึงรีบนำกำลังรุดไประงับเหตุ
บริเวณลานหน้าด้านอาคารของโรงงานดังกล่าว พบนายสายชล ม่วงแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง ซึ่งมีอาการคล้ายคนมึนเมาสุรา หรือยาเสพติด ใช้มีดดาบหัวตัดยาว 50 ซม. จี้จับนางปรางทิพย์ นิ่มสนอง อายุ 37 ปี พี่สาวตัวเองซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทดังกล่าวไว้เป็นตัวประกัน ข่มขู่เรียกร้องเงิน 1 ล้านบาท ระบุว่า จะนำไปช่วย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหาเสียงเลือกตั้ง
หลังใช้เวลาเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่า 1 ชม. ก็ยังไม่เป็นผล ทาง พ.ต.ท.วินัยจึงตัดสินใจบุกเข้าชาร์จช่วยดึงตัวนางปรางทิพย์ออกมาได้สำเร็จ แต่นายสายชลยังไม่ละความพยายาม ใช้มีดดาบวิ่งไล่ฟัน พ.ต.ท.วินัยที่เสียหลักล้มลง ทาง ด.ต.สุวิช วัชวงษ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.อ.เมืองอ่างทอง ได้ใช้ปืน 11 มม. ยิงขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด นายสายชลจึงหันหลังกลับตรงรี่เข้ามาจะฟันร่าง ด.ต.สุวิช ทาง ด.ต.สุวิชจึงตัดสินใจยิงใส่ขาทั้ง 2 ข้าง ของนายสายชลสยบฤทธิ์คลั่งได้สำเร็จ ก่อนจะรีบนำตัวส่ง รพ.อ่างทอง
จากการสอบสวนนางปรางทิพย์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งทำงานอยู่ในโรงงาน จู่ๆนายสายชลน้องชาย ซึ่งมีอาการทางประสาทอ่อนๆและชอบกินเหล้าอาละวาด ได้ถือมีดดาบเดินตรงเข้ามาข่มขู่บังคับขอเงิน 1 ล้านบาท อ้างว่าจะนำไปช่วย พ.ต.ท.ทักษิณหาเสียงเลือกตั้ง พอปฏิเสธก็อาละวาดใช้มีดดาบจี้บังคับพาออกมานอก โรงงานก่อนที่ตำรวจจะมาช่วยไว้ดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัว นายสายชลไว้ดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่รวม 4 ข้อหา