น.ส. หน่อย ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ตนได้เดินทางมาหาพี่ชายย่านหนองจอกเพื่อจะมาศึกษาต่อในกรุงเทพ โดยขึ้นรถตู้โดยสารในตัวอำเภอกันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นรถตู้แบบว่าจ้างเหมาของหมู่บ้านป้ายทะเบียนดำ เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมาซึ่งในระหว่างเดินทางมีผู้โดยสารมาเต็มคันรถจนกระทั่งมาถึงกรุงเทพเวลาประมาณ 07.00 น. ผู้โดยสารได้ลงกลางทางจนกระทั่งหมดคันเหลือเพียงตนคนเดียว โชเฟอร์ได้หันมาถามว่าจะลงที่ไหนพร้อมยังหว่านล้อมถามเรื่องส่วนตัวต่างๆ นาๆ ตนตอบไปว่าจะไปหาพี่ชายย่านรามคำแหงและจะเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ไปลงโปรแกรมใหม่เนื่องจากถูกไวรัสกวนระบบจนไม่สามารถเปิดใช้งานปกติได้ ก่อนที่คนขับจะอาสาพาไปซ่อมคอมพิวเตอร์และพาตนไปพักที่บ้านภายในซอยสุขสวัสดิ์ 92 ซึ่งเป็นบ้านเช่า
น.ส. หน่อย เล่าต่ออีกว่า เมื่อไปถึงบ้าน คนขับรถตู้ ได้ให้ตนนำของที่ติดตัวมา อาทิ ข้าวสาร กระเป๋าเสื้อผ้า และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กทิ้งไว้ในรถและให้ตนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะบอกว่าติดต่อเพื่อนที่ขับแท็กซี่และมีความรู้ในเรื่องซ่อมคอมพิวเตอร์มาซ่อมให้ที่บ้าน ในระหว่างที่ตนอาบน้ำเสร็จและนั่งรอเพื่อนของคนขับรถคนดังกล่าว ทันใดนั้นโชเฟอร์ได้ดึงแขนตนพาตัวเข้าไปในห้องนอนพร้อมบังคับขู่ให้ร่วมหลับนอนจนสำเร็จความใคร่และบังคับไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใครไม่อย่างนั้นจะฆ่าให้ตาย
ด้วยความกลัวตนได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในห้องนอน จากนั้น ในช่วงที่คนขับเข้าห้องน้ำ ตนรีบใส่เสื้อผ้าแล้ววิ่งหนีออกมาจากห้องเดินลัดเลาะตามพุ่มไม้และกำแพงบ้านคนจนมาถึงปากซอย ก่อนที่จะโทรศัพท์บอกพ่อ แม่ และพี่ชายและเรียกรถแท็กซี่ไปส่งบ้านพี่ชายและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง และเดินทางมาแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำและรวบรวมหลักฐานจนทราบแน่ชัดว่าโชเฟอร์รายนี้ชื่อนาย ทำนอง หลักหนองบัว จึงได้ขออนุมัติหมายศาลจากศาลจังหวัดสมุทรปราการและประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามจับคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป