เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา วันที่ 10 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.อ.ยุทธนา ธนบัตร ร้อยเวร พงส. สภ.ราชกรูด จ.ระนอง
ได้รับแจ้งเหตุ จากนายมูฮัมหมัด กล้าศึก ผช.ผญ.บ้านขจัดภัย หมู่ที่ 8 ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ว่าลูกบ้านกลุ่มกระชังปู บ้านขจัดภัย พบศพชายนิรนามไม่ทราบสัญชาติ เสียชีวิตลอยมาติดรากต้นโกงกาง ป่าชายเลน ในคลองขจัดภัย จึงได้ประสานงานและเดินทางเข้าที่เกิดเหตุพร้อมด้วย อาสาสมัครมูลนิธิระนองสงเคราะห์ เพื่อไปชันสูตรพลิกศพ โดยลงเรือที่ท่าเรือบ้านราชกรูด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางล่วงหน้า ไปกับชาวบ้านกลุ่มกระชังปู ที่ท่าเรือบ้านขจัดภัย ระยะทางร่วม 3 กิโลเมตร ท่ามกลางความมืด ของคลองขจัดภัย
ซึ่งกลุ่มชาวบ้านที่ทราบข่าวได้ร่วมกันนำเรืออีก 5 ลำเข้ามาสมทบ เพื่อออกค้นหาศพ ที่ลอยติดข้างป่าชายเลน โดยศพแรก พบเป็นชายสวมเสื้อยืดโปโล คอปกสีเทา ด้านหลังสกรีนภาษาอังกฤษว่า G-STAR สวมกางเกงขาสามส่วนสีเทา แถบลายสก๊อต คาดสีขาว ลักษณะศพคว่ำหน้าลำตัวพาดกับรากของต้นโกงกาง โดยศีรษะและขา จุ่มคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ ชาวบ้านได้นำเชือกไนล่อนมาผูกที่เข็มขัดหนัง และมัดไว้กับต้นโกงกาง เพื่อไม่ให้ลอยหายไปที่อื่น ห่างออกไปอีกประมาณ 1,000 เมตร พบศพที่ 2 ลอยอยู่กลางคลอง ในลักษณะคว่ำหน้าเช่นกัน เป็นเพศชาย สวมเสื้อยืดโปโล สีฟ้า ลายขวางคาดดำ นุ่งกางเกงขาสามส่วน ลายสก๊อต และรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสภาพศพ ก่อนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างไปเก็บรักษาที่ห้องเก็บศพ ร.พ.ระนอง เพื่อให้แพทย์เวรชันสูตรพลิกศพอีกครั้งหนึ่ง
นายมูฮัมหมัด กล่าวว่า ช่วงค่ำที่ผ่านมา มีลูกบ้านในกลุ่มกระชังปู ได้ออกไปกู้ลอบดักปูดำ ใกล้ป่าชายเลน
ซึ่งจะนำมาเลี้ยงในกระชังปูนิ่ม จนมาถึงจุดเกิดเหตุ ขณะกำลังถ่อเรือเพื่อไปเก็บลอบปู เรือได้ผ่านเงาตะคุ่มๆ ที่ต้นโกงกาง ส่องไฟฉายไปดู พบเป็นร่างคนลอยติดในลักษณะคว่ำหน้าบนรากโกงกาง จึงเล่นเรือเผ่นหนีด้วยความตกใจ มาแจ้งพบศพกับตน และเวลาใกล้เคียงกัน มีชาวบ้านโทรศัพท์พบศพเพิ่ม อีก 1 ศพ ลอยอยู่กลางคลองขจัดภัยเช่นกัน จึงเดินทางไปแจ้งเหตุกับร้อยเวร สภ.ราชกรูด ให้มาตรวจสอบ ซึ่งลักษณะผู้ตายตนคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มชายชาวพม่า ที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาทางทะเล คงจะเจอคลื่นลมและฝนตกหนักในคืนวันที่ 7 เช้ามืดวันที่ 8 ที่ผ่านมา และตนคาดว่าน่าจะมีศพลอยขึ้นอืดตามมา อีกหลาย 10 ศพ อย่างแน่นอน คงจะให้ลูกบ้านออกค้นหาในช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค. ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จะใช้เรือหางยาว
หลบหนีเข้าเมืองในเวลากลางดึก และบรรทุกคนแต่ละเที่ยวไม่ต่ำกว่า 20 คน ตามสถิติที่ทั้งทหารบก ทหารเรือและตำรวจสามารถจับกุมได้ โดยจะออกเดินทางจากจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า และลักลอบขึ้นฝั่งรอยต่อระหว่างจังหวัดระนองและจังหวัดพังงา ก่อนที่จะมีขบวนการค้าแรงงาน นำรถยนต์ส่งแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ ไปส่งยังจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ชั้นใน