คลิปปะทะเดือดเด็ดหัวเปเล่ดำตัวแสบโจรใต้

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้

ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าได้มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายกลุ่มของนายมะซูพิยัน  ยะกูมอ  ผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.เรียง อ.รือเสาะ จว.นราธิวาส จึงจัดกำลังการปฏิบัติเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 4/2 หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 7 ราย ก่อนที่จะเกิดการปะทะกับกลุ่มคนร้ายที่บ้านเลขที่ 12/4 หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส  ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับบ้านเป้าหมาย เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ฝ่ายคนร้ายเสียชีวิต 4 คน พร้อมยึดอาวุธปืนได้จำนวนหลายกระบอก เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 5 ต.ค.  ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา 

พ.อ. คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เปิดเผยว่า จากการซักถามในเบื้องต้นก็ทราบว่า ในวันที่เกิดเหตุนั้นทั้งหมดได้มาประชุมเพื่อเตรียมปฎิบัติการโจมตีฐานเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ ต.บาลอ อ.รามัน ในคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งโชคดีที่เจ้าหน้าที่ไปพบก่อน แล้วเกิดการยิงปะทะ ก่อนที่จะควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 7 คน และวิสามัญคนร้ายได้ 4 ราย โดยทราบว่าในเหตุการณ์นั้น มีคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ 2 คน  ซึ่งผลจากการซักถาม หลายคนก็ยอมรับว่าได้รับการสั่งการมาให้รวมตัวกันเตรียมการ วางแผนการปฎิบัติการในคืนนั้น โดยมีการมอบหน้าที่ว่าใครจะรับหน้าที่อะไร อย่างไร

“กลุ่มคนร้ายที่เสียชีวิต กลุ่มนี้เป็นกลุ่มของนายอุสมาน เด็งสาแม  ซึ่งเป็นระดับผู้บังคับกองร้อย มีนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรืออุสตาสรอฮิง อาซ่อง เจ้าของฉายา "เปเล่ดำ" ที่มีตำแหน่งเป็นผู้บังคับหมวด กลุ่มนี้ก่อเหตุมามากมายในเขต อ.รามัน จ.ยะลา อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ไม่ว่าจะเป็นการยิงโจมตีเจ้าหน้าที่ ตามฐานปฎิบัติการ วางระเบิดรถทหาร วางระเบิดรางรถไฟ และการโจมตีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ อส. ซึ่งถ้าไปตรวจสอบให้ชัดเจน ก็เชื่อว่ามีส่วนร่วมก่อเหตุในหลายคดีมากมาย โดยเฉพาะนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ ที่ก่อเหตุค่อนข้างมาก"พ.อ.คมกฤช กล่าว

อย่างไรก็ตามในวันนั้นมีคนร้ายคนสำคัญที่สามารถหลบหนีไปได้ คือนายบูคอรี สามะ ซึ่งเป็นมือระเบิด ที่สำคัญในเขตนี้
 
โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าติดตามนายบูคอรี ที่บ้านพักใน ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ก็ไม่พบตัว และอยู่ในระหว่างการปิดล้อมในพื้นที่ต้องสงสัย  สำหรับการรวมตัวของกลุ่มคนร้ายในวันนั้น เชื่อได้ว่ามีการรวมตัวเพื่อก่อเหตุใหญ่ เนื่องจากมีคนร้ายตัวสำคัญมารวมตัวกันหลายคน อย่างต่ำ 13 คน ยังไม่รวมพวกแนวร่วมที่ยังเดินทางมาไม่ถึง

ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ยังกล่าวอีกว่า สำหรับอาวุธปืนที่ได้จำนวน 3 กระบอก

และล่าสุดยังสามารถตรวจยึดปืนพกขนาด 11 มม. ภายในบ้าน โดยพบว่าปืน 11 มม.กระบอกนี้ เป็นของ อส. ที่ถูกยิงเสียชีวิต แล้วคนร้ายได้นำไป เมื่อปี 2554  แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อวานนี้(7 ต.ค.) ก็มีเข้ามามอบตัวเพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่จะต้องซักถามกันอย่างละเอียดว่ากลุ่มคนร้ายที่มีหมายจับตาม ป.วิ อาญา ไปอยู่ภายในบ้านเหล่านั้นได้อย่างไร ซึ่งเจ้าของบ้านต้องให้คำตอบให้ได้