นายสุรชัย จันทรภักดี นิติกรชำนาญการเรือนจำกลางอุบลราชธานี
ได้รับแจ้งจากป้อมยามรักษาการณ์ด้านทิศตะวันออก ว่า มีคนขว้างโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำบริเวณแดนขังนักโทษชาย 2 จึงนำกำลังปิดล้อมบริเวณป่าละเมาะด้านหลังเรือนจำประมาณ 30 นาที สามารถควบคุมตัวนายสมยศ เสดสี อายุ 32 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 73 หมู่ 4 บ้านหนองกุง ต.หนองเรือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
สอบถามนายสมยศสารภาพว่า อดีตเป็นผู้จัดการบริษัทเงินกู้เอกชนแห่งหนึ่งในจ.อุบลราชธานี
ต่อมาถูกให้ออกจากงาน เพราะเกิดคดียักยอกเงินของบริษัท หลังตกงานได้มาเดินเร่ร่อนอยู่แถวสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง เมื่อวันที่ 5 ต.ค. พบกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาติดต่อ เสนอให้มาขว้างโทรศัพท์เข้าไปให้ผู้ต้องหาในเรือนจำจะได้ค่าจ้าง 2,000 บาท จึงตกลงทำ ในตอนเช้าผู้หญิงคนดังกล่าว ขี่รถจักรยานยนต์มารับและมอบห่อบรรจุโทรศัพท์ให้ พร้อมขับรถมาส่งที่เรือนจำ เมื่อตนโยนโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำหญิงคนดังกล่าวได้ขับรถหนีไป และตัวเองถูกเจ้าหน้าที่มาล้อมจับไว้ได้ต่อมา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถยึดโทรศัพท์มือถือได้จากแดนขังที่นายสมยศโยนเข้าไปจำนวน 3 เครื่อง จึงยึดไว้และตั้งหาข้อนายสมยศบุกรุกสถานที่ราชการ ลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำ
พร้อมประสานงาน ร.ต.ท.เผ่าพงษ์ แสงยรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานีมารับตัวไปสอบสวน
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะเชื่อว่านายสมยศพร้อมเพื่อนอาจจะพากันลงมือทำกันเอง เนื่องจากโทรศัพท์มือถือหากนำขายในเรือนจำจะตกราคาเครื่องละกว่า 7 หมื่นบาท จึงได้ควบคุมตัวไปยังดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป