เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ชัยภูมิว่า ยิ่งทวีความรุนแรง ขณะนี้ทางราชการได้ประกาศเขตภัยพิบัติทั้ง 11 อำเภอแล้ว ประชาชนเดือดร้อนกว่า 58,000 ครอบครัว ล่าสุดกระแสน้ำชีที่หลากเข้าท่วม อ.บ้านเขว้า พัดพาร่างด.ญ.พรลำประภา มาชัย วัย 7 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 9 บ้านกุดไข้นุ่น ต.บ้านเขว้า ที่ลงเล่นน้ำหน้าบ้านจมหาย ชาวบ้านช่วยกันค้นหาอยู่นานกว่า1 ชม. ก็พบร่างหนูน้อยติดอยู่ที่แหดักปลาท้ายหมู่บ้านเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 3 ของ จ.ชัยภูมิ ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ นอกจากนี้ยังทะลักท่วมชุมชนในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิทั้ง 25 ชุมชนในโซนเศรษฐกิจและตำบลรอบเมืองอีกหลายชุมชน บ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน
ทั้งนี้มวลน้ำชีก้อนใหญ่ยังบ่าท่วมขยายวงในอ.จัตุรัสซ้ำสอง ปริมาณน้ำท่วมสูงเริ่มล้นออกมายังถนนสายหลักเส้นเลือด เชื่อมระหว่างจังหวัด สายประตูสู่สายอีสานมิตรภาพชัยภูมิ สีคิ้วโคราช-กรุงเทพ ( สายสีคิ้ว-ชัยภูมิ) ช่วงต.ละหาน อ.จัตุรัส ถนนหลายช่วงน้ำเริ่มล้นเข้าท่วมถนนออกมาสูงกว่า 30-40 ซม.แล้ว รถเล็กผ่านไม่ได้ ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
อย่างไรก็ตาม พสกนิกรต่างปลื้มปีติ เมื่อพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิติติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
โปรดเกล้าฯให้นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิเพื่อพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนพระองค์ฯ ประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพพระราชทานแก่พระภิกษุสงฆ์ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และราษฏรผู้ประสบอุทกภัยรวม 4 พันชุด.