ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ก.ย. ศาลนัดฟังคำพิพากษาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ คดีดำ อ.3516/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ หรือผู้กองณัฏฐ์ อดีตผู้บังคับหมวด 426 กก.ตชด.ที่ 42 (ตชด.42) จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการตชด.41 จ.ชุมพร
จำเลยที่ 1 จ.ส.ต.มานพ ไมโภคา
จำเลยที่ 2 จ.ส.ต.พินิจ วงศ์จินดา
จำเลยที่ 3 จ.ส.ต.เชาวลิต สุมน
จำเลยที่ 4 จ.ส.ต.อรันทร์ นิลเพชร
จำเลยที่ 5 จ.ส.ต.นพรัตน์ บัวนา
จำเลยที่ 6 จ.ส.ต.สุศักดิ์ วิชัยดิษฐ์
จำเลยที่ 7 จ.ส.ต.วีระศิลป์ สุทธิเมฆ
จำเลยที่ 8 จ.ส.ต.พงษ์พรรณ ปัญญาโรจน์
จำเลยที่ 9 และ ส.ต.ท.เนรมิตร จัตุมิตร
โดยระบุความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 6 - 8 ต.ค.2550 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งหมดกับพวกอีก 2 คนซึ่งหลบหนี ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยร่วมกันใช้อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนบังคับขู่เข็ญควบคุมตัวร.ต.อ.ศรัญญู สุรินรังษ์ ผู้เสียหาย ที่ 1 ส.ต.ท.จีระพัฒน์ สิทธิตัน ผู้เสียหายที่ 2 ด.ต.ศักดิ์ชัย ชิดชาญชัย ผู้เสียหายที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจปส. และนายอาก๋อง หรือก่อง หมื่อแล ผู้เสียหายที่ 4
พร้อมกล่าวหาว่าผู้เสียหายทั้งสี่ร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จากนั้นได้พาผู้เสียหายทั้งสี่เข้าไปหน่วงเหนี่ยวกักขังภายในห้องพักอาคารอารีย์เรสซิเดนซ์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทั้งสี่ จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันบังคับขู่เข็ญผู้เสียหาย ทั้งสี่ให้ลงชื่อในบันทึกการจับกุมยอมรับสารภาพและร่วมกันเรียกเงิน จำนวน2 ล้านบาท จากผู้เสียหายที่ 1 ด้วย
เหตุเกิดที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน และแขวงสามเสนใน เขตพญาไทย กทม. ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157 และ 295 โดยร.ต.อ.ณัฏฐ์ จำเลย ที่ 1จ.ส.ต.เชาวลิต จำเลยที่ 4 และส.ต.ท.เนรมิต จำเลยที่ 10 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยอื่นอีก 7 คนคือจำเลยที่ 2,3,5-9 ให้การปฏิเสธ
ศาลวิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า พยานโจทก์มีน้ำหนัก มั่นคงเบิกความสอดคล้องต้องกันไปตามจริง เชื่อว่าจำเลยทั้งหมดได้ร่วมกันรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายและเรียกรับเงิน ประกอบกับจำเลยบางรายให้การรับสารภาพ เชื่อว่าจำเลยทั้งสิบกระทำผิดตามฟ้องจริง
จึงพิพากษาลงโทษจำคุก ร.ต.อ.ณัฏฐ์ พร้อมพวกจำเลยทั้งหมด คนละ 10 ปี ซึ่งร.ต.อ.ณัฏฐ์ จำเลยที่ 1 จ.ส.ต.เชาวลิต จำเลยที่ 4 และส.ต.ท.เนรมิต จำเลยที่ 10 ให้การรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 5 ปี ส่วนจำเลยอีก 7 คน คือจำเลยที่ 2,3,5-9 ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษ 1ใน 3 คงจำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน และให้ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมผู้เสียหายทั้งสี่ เป็นเงิน 1 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี