เกิดอุบัติเหตุสยองบนทางด่วนขั้นที่ 1 เมื่อรถเก๋งโตโยต้า อัลติส เกิดเสียหลักพุ่งชนท้ายรถมินิแวนนิสสันป้ายแดงจนพลิกตะแคง สาวท้อง 5 เดือนชะตาขาด ลืมขาดเข็มขัดนิรภัย ทำให้ร่างกระเด็นออกจากตัวรถ ถูกทับซ้ำจนสมองกระจาย
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (29 ก.ย.) พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ช่างสลัก พนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 1
รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งเฉี่ยวชนกันทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณทางด่วนขั้นที่ 1 เลยจุดทางลงถนนพระรามที่ 4 มุ่งหน้าดินแดง แขวงและเขตคลองเตย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุบริเวณทางด่วนมุ่งหน้าหน้าดินแดง ในช่องทางขวาสุด พบรถเก๋งมินิแวน ยี่ห้อนิสสัน รุ่นเซเรน่า สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ณ 7233 กรุงเทพมหานคร สภาพตะแคงซ้ายพังเสียหายยับเยิน ทับร่างของ น.ส.จุฑามาส โชติวงศ์สุโรจน์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ถนนลาดปลาเค้า แขวงและเขตลาดพร้าว ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน จนกะโหลกศีรษะแตกมันสมองกระจาย เป็นที่น่าสยดสยอง
นอกจากนี้ยังพบ คือ นายภัณฑิล น่วมเจิม อายุ 36 ปี นักธุรกิจหนุ่มสามีผู้ตาย ได้รับบาดเจ็บบริเวณมือซ้ายถูกกระจกบาด
เนื่องจากปีนออกจากรถที่เกิดเหตุ ห่างไปเล็กน้อยพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว ทะเบียน ฎบ 509 กรุงเทพมหานคร คู่กรณี จอดอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร โดยมี นายภูมิชนันท์ เรืองชัยนันท์ อายุ 23 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นผู้ที่ขับขี่ กำลังยืนร้องไห้สำนึกผิดอยู่ในที่เกิดเหตุ จากการสอบสวน นายภูมิชนันท์ ซึ่งยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถขึ้นทางด่วนมาเพื่อไปทำธุระย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุปรากฏว่ารถเกิดอาการสั่นส่ายไปมาไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดเสียหลักพุ่งชนท้ารถมินิแวนคู่กรณีคันที่ขับอยู่ด้านหน้าอย่างแรง จนรถมินิแวนเสียหลักพลิกตะแคง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.จุฑามาสได้นั่งมาในรถตู้มินิแวน บริเวณเบาะข้างคนขับ
โดยที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ทำให้เมื่อถูกชนอย่างแรงร่างจึงกระเด็นหลุดออกมาจากตัวรถ ก่อนที่จะถูกรถพลิกมาทับร่างซ้ำจนเสียชีวิต และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนทางด่วน พบว่าไม่สามารถจับภาพในขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้ จึงยังไม่มีการแจ้งข้อหากับใครแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตำรวจได้ควบคุมตัว นายภูมิชนันท์ คนขับรถเก๋งโตโยต้า อัลติส ไปสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.