พาณิชย์เสียงแข็งไข่ไก่ไม่แพงเว่อร์

 นายวัฒนา ยะประโคน เจ้าของฟาร์ม “โคราชไข่ไก่ฟาร์ม” อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กล่าวว่า

ขณะนี้ไข่ไก่ในท้องตลาดมีปริมาณลดลง ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ซึ่งราคาขายส่งแบบคละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 3.30 บาท และมีแนวโน้มสูงที่ราคาขายปลีกจะปรับขึ้นไปถึงฟองละ 3.90- 4.00 บาท โดยราคาดังกล่าวเป็นไปตามประกาศของสมาคมผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ไข่

สอดคล้องกับความเห็นของนางสมใจ มหาชน ผู้ค้าไข่ไก่

ที่ระบุว่า ฟาร์มเลี้ยงไก่ขอปรับขึ้นราคาไข่อีกฟองละ 10 สตางค์ ทำให้ต้องปรับราคาขายปลีกสูงกว่าราคาที่ฟาร์มแจ้งปรับ และราคาที่ปรับขึ้นจะสูงที่สุดเท่าที่เคยขายไข่ไก่มาหลายปี หรือราคาไข่ไก่คละได้ปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปีเฉลี่ยฟองละ 60 สตางค์ หรือประมาณ 20 บาท ต่อ 30 ฟอง

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มในพื้นที่ต่างๆ
 
พบว่า ราคาส่วนใหญ่อยู่ที่ฟองละ 3.30 บาท ไม่ได้มีการปรับราคาสูงขึ้นตามที่มีข่าวว่าผู้เลี้ยงจะปรับราคาไข่ไก่คละเป็นฟองละ 3.90 บาท และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีข่าวว่าไข่ไก่คละมีราคาแพง เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงแล้ว 

“เราไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาไข่ไก่ ต้องดูทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งผู้บริโภคจะต้องไม่บริโภคไข่ในราคาที่แพงเกินไป และฝั่งผู้ผลิตต้องอยู่ได้” นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาไข่ไก่มีราคาแพง กระทรวงได้ประสานไปยังผู้ผลิตรายใหญ่ ซึ่งได้รับปากว่าจะตรึงราคาจำหน่ายไว้ไม่มีการปรับขึ้น และยังประสานไปยังห้างค้าปลีกรายใหญ่ ทั้งเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี ให้ช่วยขายไข่ในระดับราคาที่เหมาะสม รวมทั้งได้ประสานผู้ผลิตนำไข่ไก่มาขายในโครงการไข่ไก่ธงฟ้า เบอร์ 3 ราคาฟองละ 3 บาท ที่กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28-31 พฤษาภคม 

นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สถานการณ์ไข่ไก่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม กรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบแผงค้าให้ปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน และหากมีการขายราคาสูงเกินจริง ผู้ค้าก็ต้องชี้แจงเหตุผล หากไม่มีเหตุผลสมควรในการปรับขึ้นราคา กรมจะใช้มาตรการกฎหมายเข้าไปดำเนินการตาม พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 ขณะที่นายมงคล พิพัฒน์สัตยาวงศ์ สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกไข่ไก่
 
เปิดเผยว่า ราคาไข่ไก่ที่ปรับตัวสูงขึ้น ไม่อยากให้รัฐบาลนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง แต่ควรพิจารณาอย่างเป็นธรรม ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกการตลาด ซึ่งสถานการณ์การดังกล่าวจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อฝนตกอากาศเริ่มเปลี่ยนทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งรัฐบาลไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้อง และทำให้เกิดการบิดเบือน นโยบายทุกอย่างควรเปิดโอกาสให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ด้วย