สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ว่า นักวิเคราะห์แห่งธนาคารกลางออสเตรเลียชี้ว่า
ทองคำ ซึ่งมีราคาตกลง 17 เปอร์เซนต์ นับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีโอกาสที่จะลดลงอีก 20 เปอร์เซนต์ในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ขยายตัว รวมทั้งเศรษฐกิจโลกยังเสี่ยงที่จะเผชิญวิกฤตการเงินโลกครั้งรุนแรงที่สุดด้วย
รายงานระบุว่า ประเมินว่า ราคาทองคำโลกในปีนี้ จะอยู่ที่ระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจะต่ำกว่าระดับ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในอีกช่วง 5 ปีข้างหน้า และภาวะราคาทองคำที่ตกลงจะไม่ช่วยดึงดูดให้ธนาคารใหญ่ ๆ ของโลกเข้ามาลงทุนซื้อทองคำด้วย หรือกล่าวได้ว่าขณะนี้ ทองคำอยู่ในภาวะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากทั่วโลกต้องการซื้อทองเพื่อสะสมความมั่งคั่งน้อยลง รวมทั้งโอกาสที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อหดตัวมีสูง รวมทั้งนักลงทุนกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นต่อราคาทองคำ แม้ว่าธนาคารกลางจะพิมพ์ธนบัตรในระดับมากสูงกว่าที่ผ่านมา โดยทองแท่งมีราคาตกฮวบเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากพุ่งสูงมาตลอด 12 ปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มกว่า 7 เท่าตัว
ส่วนนักวิเคราะห์อีกรายระบุว่า ราคาทองคำอาจตกลงอยู่ที่ระดับ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ส่วนราคาโลหะจะยังคงแพงเมื่อเทียบกับทรัพย์สินอื่น ๆ และในขณะที่ธนาคารกลางมีแผนยุทธศาสตร์ที่จะสร้าง"ความหลากหลาย"ให้แก่ทุนสำรอง บรรดาผู้ว่าธนาคารกลางฯเหล่านี้ ก็ไม่ต้องการจะสูญเสียเงินสดในคลังด้วยการไปลงทุนทองคำในช่วงที่มันอยู่ในช่วงราคาตก
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จาก"Credit Suisse"เผยว่า ทองคำต้องเผชิญกับภาวะราคาตกต่ำที่สุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
โดยคาดว่าในปีนี้ จะต่ำกว่าระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วน"โกล แมน แซค"ประเมินว่า ทองคำแท่งจะตกลงอยู่ที่ระดับ 1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วน"ด๊อยช์ แบงก์ เอจี"พยากรณ์ว่า จะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
