รมว.พลังงาน ผุดไอเดียห้ามรถใหม่ใช้ก๊าซแอลพีจี หวังแก้ปัญหาก๊าซมีไม่พอผลิตไฟฟ้า เล็งสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าเพิ่ม แต่ห่วงคนพื้นที่ต่อต้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาผู้เเทนราษฎรวันนี้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน
ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงกระทู้ถามสด ต่อประเด็นปัญหาวิกฤตพลังงาน และทิศทางพลังงานไทย รวมถึงแนวโน้มการนำพลังงานทดแทน หรือพลังงานอื่นๆ นอกเหนือจากก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าว่า ยอมรับว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงอย่างมากที่ใช้แก๊สธรรมชาติเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ดังนั้นในอนาคตต้องพิจารณาหาพลังงานชนิดอื่นมาทดแทน ทั้งนี้ต้องพิจารณาถึงค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นด้วย และผลกระทบต่อภาคประชาชนและอุตสาหกรรม รวมถึงการแข่งขันในตลาดโลกด้วย เช่น แนวคิดที่จะนำพลังแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้า อาจทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกหน่วยละ 10 บาท
"ขณะรัฐบาลมีแผนที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแก๊สธรรมชาติ เพื่อให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 5,400 ล้านเมกะวัตต์ เบื้องต้นจะทำที่จ.กระบี่ โดยขณะนี้ได้หารือกับ ส.ส.ในพื้นที่แล้ว และคาดว่าหากก่อสร้างได้แล้ว ภายใน 7 - 10 ปี โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้า แต่ปัญหาการก่อสร้างโรงฟ้าขณะนี้คือประชาชนในพื้นที่ต่อต้าน ดังนั้นขอให้ ส.ส.ในพื้นที่ช่วยพูดกับประชาชนให้เลิกต่อต้านด้วย เพราขณะนี้มีการใช้เทคโนโลยี และการสร้างโรงไฟฟ้าตามหลักสากล" นายพงษ์ศักดิ์ ชี้แจง
รมว.พลังงาน ชี้แจงต่อว่าสำหรับปัญหาการขาดแคลนก๊าซแอลพีจี และการเกิดอุบัติเหตุรถขนก๊าซแอลพีจีบ่อยช่วงนี้นั้น
ตามนโยบายของรัฐบาลเห็นว่าควรยกเลิกการใช้ก๊าซแอลพีจี แต่ไม่ใช่การยกเลิกทั้งหมด เบื้องต้นรถที่ใช้เชื้อเพลิงดังกล่าว ยังคงใช้ต่อไป แต่อนาคตรถที่จดทะเบียนใหม่จะไม่ให้ใช้เชื้อเพลิงแอลพีจี ส่วนคุณภาพของรถติดตั้งแก๊สเอ็นจีวีนั้น จะให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงอุตสาหกรรมตรวจสอบให้ได้มาตรฐานและความปลอดภัยของผู้ใช้