นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า
การประมูลใบอนุญาตให้บริการ (ไลเซ่นส์) 3 จี 2.1 กิกะเฮิร์ตซ ที่จัดโดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ได้มูลค่าใบอนุญาต 9 ใบ รวมกันทั้งสิ้น 41,625 ล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่าการคาดการณ์และสร้างความเสียหายให้กับประเทศ
"การที่ กสทช. เปิดประมูลด้วยการนำสิ่งของที่มีมูลค่าสูงมาขายในราคาต่ำและหวังให้การประมูลช่วยทำให้ราคาสูงขึ้น แต่เมื่อเกิดการประมูลกลับได้ราคาต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งมูลค่ามีหายไปคิดเป็นเงินถึง 1.6 หมื่นล้านบาท หากพูดให้ง่ายก็คือของมีราคา 100 บาท แต่ กสทช.นำมาขายในราคาลด 30% แต่เมื่อผลประมูลออกมากลับทำให้ราคาเพิ่มจากราคาที่ลดแค่ 2-3% ซึ่งเรียกว่าเป็นการประมูลล้มเหลว"นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า ผลการประมูลสะท้อนว่า การออกแบบการประมูลใบอนุญาต 3 จี ของกสทช. ไม่ได้เอื้อให้เกิดการแข่งขันของเอกชนอย่างที่ควรจะเป็น
และเอื้อให้เอกชนสมคบกันโดยไม่ต้องแข่งขัน ซึ่งหลังจากนี้อยากเรียกร้องให้ กสทช.ออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าจะดำเนินการอย่างไรกับความเสียหายที่เกิดขึ้น "ที่ผ่านมามีเสียงทักท้วงถึงการออกแบบการประมูลในครั้งนี้มาตลอด แต่ กสทช.ก็ไม่ได้นำมาพิจารณา ดังนั้น กสทช. ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการแถลงว่าจะดำเนินการอย่างไรกับความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวด้วย"นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า เชื่อว่าแม้จะประมูลใบอนุญาตไปได้ในราคาไม่สูง
แต่ผู้ประกอบการก็คงไม่มีการนำมาลดราคาค่าบริการให้กับผู้บริโภค เพราะราคาประมูลที่ผู้ประกอบการได้ในครั้งนี้เหมือนการถูกล็อตเตอรี่หรือการได้ลาภลอย ฉะนั้นไม่มีคนขายสินค้าคนไหนที่ถูกล็อตเตอรี่แล้วจะมาลดราคาสินค้าให้กับผู้บริโภค วันนี้หุ้นของผู้ประกอบการด้านสื่อสารทั้ง 3 ราย ปรับตัวขึ้นหมด ซึ่งสะท้อนว่า ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ตกอยู่ที่ผู้บริโภค แต่ตกอยู่ที่ผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้การประมูลที่ดีต้องเอื้อให้เกิดการแข่งขันเพื่อให้เกิดประโยชน์ที่ผู้ให้ประมูล ดังนั้นหวังว่าในอนาคตการประมูลคลื่น 4 จี หรือ คลื่นใดๆก็ตาม จะไม่เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นมาอีก