กทม.ขู่พร้อมฟัน 'สเตชั่น1' หากครบ 30 วันแต่ยังฝ่าฝืนคำสั่งห้ามดัดแปลงอาคาร ย้ำให้รอวันที่ 17 พ.ค. ครบกำหนด 'สเตชั่นวัน ปฏิบัติตามคำสั่งรื้อถอน
15 พ.ค.55 นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงข้อพิพาทระหว่าง โครงการ "Station 1@China Town) กับวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่)ว่า เจ้าของอาคารได้แจ้งต่อเขตในการขออนุญาตซ่องแซมอาคาร โดยเขตได้มีเงื่อนไขว่า หากมีการกระทำใดๆ ที่เป็นการดัดแปลงอาคารตาม พรบ.ควบคุมอาคาร ปี 2522 จะต้องได้รับอนุญาตก่อนดำเนินการ หลังจากนั้นมีการร้องเรียนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักการโยธาและสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายเข้าตรวจสอบ ก็พบว่า มีการดัดแปลงตัวอาคาร ซึ่งผิด พรบ.ปี 2522 ในการดัดแปลงบันไดธรรมดาเป็นบันไดเลื่อน และเสริมคอนกรีตเสริมเหล็กในตัวอาคารชั้นที่ 2-7 ถือว่า มีความผิดทั้งทางแพ่งและอาญา ดังนั้นกทม.จึงได้สั่งการให้ระงับการรื้อถอนอาคาร โดยมีระยะเวลา 30 วัน หากไม่ปฏิบัติตามจะสั่งการให้ดำเนินคดีกับเจ้าของอาคารตามกฎหมาย
"เรื่องนี้ทางกทม.ได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว โดยมีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างหรือต่อเติมอาคาร ภายหลังเจ้าของอาคารได้แจ้งขออนุญาติมาที่สำนักงานเขตโดยระบุจะมีการปรับปรุงอาคาร แต่ตอนนี้ทราบว่าเจ้าของอาคารจะไม่ปรับปรุงเป็นโรงแรมแล้ว โดยจะเป็นที่พักอาศัย ซึ่งวัดเล่งเน่ยยี่ก็ยังไม่ยินยอมให้สร้างอยู่" นายธีนะชนม กล่าว
ด้าน ม.ร.ว.เปรมศิริ เกษมสันต์ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม. กล่าวว่า สำหรับข้อบัญัติเรื่องการก่อสร้างสถานบันเทิงใกล้วัดนั้น มีอยู่บางส่วนแต่เป็นเรื่องการควบคุมความสูงของอาคารทเช่นอาคารห้ามสร้างสูงเกิน 15 เมตรสร้างมาก่อน โดยในพื้นที่ย่านเยวราชก็ไม่ได้มีข้อบัญญัติที่กำหนดว่าไม่สามารถมีสถานประกอบการบันเทิงได้ มีเพียงข้อบัญญัติเรื่องของึวามสูงไม่เกิน 15 เมตร และตั้งอยู่ห่างกับศาสนสถาน 50 เมตร อย่างไรก็ตาม อาคารที่มีปัญหาเป็นอาคารเก่าที่สร้างก่อนมีข้อบัญญัติควบคุมไว้หากจะมีการควบคุมก็ไม่สามารถดูแลได้
"ตอนนี้มีแค่เกาะรัตนโกสินทร์ที่มีการห้ามไม่ให้มีสถานที่ไม่เหมาะสมอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งเรื่องที่เยาวราชก็คงอยู่ที่จิตสำนึกของเจ้าของอาคารว่าจะดำเนินการอย่างไร"ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าว
ย้ำให้รอวันที่ 17 พ.ค. ครบกำหนด "สเตชั่นวัน" ปฏิบัติตามคำสั่งรื้อถอน
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่า กทม กล่าวถึงปัญหาโครงการ "Station 1@China Town" กับวัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ผ่านทางรายการชาวกรุง ทางสถานีโทรทัศน์ เนชั่นชาแนลว่า ในส่วนพื้นที่ที่มีปัญหา เดิมเป็นการขอซ่อมแซมเข้ามาในช่วง ธ.ค. ซึ่งเขตก็ยอมแต่มีเงื่อนไขว่าหากเป็นการดัดแปลงต้องได้รับอนุญาตก่อน แต่ต่อมาก็มีการติดป้ายโฆษณาว่าจะทำเป็นโรงแรม มีการประกาศรับพริตตี้ ตนและผู้ว่าฯ กทม.จึงได้ไปคุยกับเจ้าอาวาสในช่วงเดือน ก.พ. ซึ่งเราก็กังวลและเข้าไปตรวจสอบ จนล่าสุดเข้าใจว่าไม่สร้างเป็นโรงแรม และพบว่ามีการทุบบันไดเตรียมสร้างบันไดเลื่อน ซึ่งหลายเรื่องเข้าเกณฑ์เป็นการดัดแปลงอาคาร เราจึงมีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างและห้ามเข้าพื้นที่ในวันที่ 10 เม.ย. แต่ทางบริษัทอ้างว่าได้รับหนังสือวันที่ 17 เม.ย. คำสั่งที่มีผลใน 30 วันต้องรอวันที่ 17 พ.ค.นี้ จึงจะครบตามที่กำหนด เข้าใจว่ามีความพยายามที่จะผ่อนผันในช่วงนี้
นายธีระชน กล่าวว่า หลักกฎหมายเราให้ทางเขตสั่งระงับและให้รื้อถอนในส่วนที่ทำผิดเอง แต่เราก็ต้องให้เวลา ในการปฏิบัติ อย่างไรก็ตามทางกำหมายเขาก็มีสิทธิอุทธรณ์บ้างเล็กน้อย แต่ในความเหมาะสมก็ค่อนข้างชัดเจน ว่าวัดอายุเป็นร้อยปี อยู่ๆจะมีการสร้างสถานบันเทิง รับพริตตี้้วยความเหมาะสมไม่สมควรจะเป็นอย่างนั้น ดังนั้นสามัญสำนึกควรแก้ปัญหาในลักษณะอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่า มีกฎหมายกำหนดเรื่องระยะห่างระหว่างสถานบริการกับวัดหรือไม่ นายธีระชนยอมรับว่า ในยุคนึงมีกฎหมายห้ามเกี่ยวกับระยะทาง โดยอำนาจการอนุญาตเป็นของพนักงานตำรวจหรือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล การห้ามดัดแปลงอาคารเป็นเรื่อง กทม. แต่เรื่องประกอบการสถานบริการเป็นเรื่องของตำรวจ
"ในเชิงกฎหมาย พรบ.ควบคุมอาคาร ใช้ทั่วประเทศ คงไม่สามารถดำเนินการต่างจากจังหวัดอื่น แต่ในเชิงสังคมสามัญสำนึกคนที่จะเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควรมีจิตสำนึกว่าจะสร้างสถานบริการก็ต้องดูความเหมาะสมและข้อกฎหมายเท่าที่ทราบ ตำรวจก็คงอนุญาตให้ไม่ได้" นายธีระชน กล่าว