สสจ. ตรวจยาซูโดอีเฟดรีนในสถานพยาบาลเอกชน พบว่ามีคลีนิกเอกชนใช้อยู่
5 เม.ย.55 นายแพทย์ศิริชัย ลิ้มสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะทำงานป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟูและเยียวยายาเสพติด โดยการสั่งการของนาย พสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและประธานคณะทำงานป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟูและเยียวยายาเสพติด ซึ่งประกอบไปด้วย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ร่วมกันตรวจสถานพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรีน.พ.ศิริชัย กล่าวต่อว่า เนื่องจากมีข้อมูลว่าสถานพยาบาลแห่งนี้มีการสั่งซื้อยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรี นเป็นจำนวนกว่า 3 แสนเม็ด ขณะทำการผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลแจ้งว่ายาดังกล่าวตนได้จ่ายยาให้แก่ผู้ ป่วยไปและคงเหลือยาสูตรผสมอยู่ 30,600 เม็ด ต่อมา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2555 เจ้าของสถานพยาบาลดังกล่าวได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในคลินิกยังมียาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนคงค้างอยู่ในคลังยาของตนเองจำนวนมาก จึงรีบไปแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรีทราบ
“เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจขอให้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรีจึงได้ดำเนินการไปตรวจ สอบข้อเท็จจริงดังกล่าวในวันเดียวกันพบว่ามียาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนคง ค้างอยู่ในคลังยาจำนวนกว่าสองแสนเม็ดและยาน้ำจำนวนหนึ่ง เจ้าของคลินิกได้ให้ความร่วมมือในการยุติการใช้และปิดผนึกเก็บไว้ที่คลินิก“
น.พ.ศิริชัย กล่าวต่ออีกว่า ในการนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรีได้รายงานแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุข และจังหวัดลพบุรีทราบ พร้อมกันนี้จังหวัดลพบุรีได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการในการตรวจสอบรายละเอียด และกำหนดมาตรการในดำเนินการเรื่องดังกล่าวและได้ประสานหารือไปยังคณะทำงานฯ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555 ถึงแนวทางการดำเนินงานต่อไป ซึ่งนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ได้สั่งการให้คณะทำงานฯ ประกอบด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ซึ่งนำโดยพล.ต.ต.ประยุทธ์ วะนะสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ไปตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2555 ตรวจพบว่าในส่วนของคลินิกมียาสูตรผสม ซูโดเอฟริดีนจำนวนดังกล่าวตามที่ผู้ประกอบการได้แจ้งไว้จริง และคลินิกได้ส่งมอบยาจำนวนดังกล่าวต่อคณะเจ้าหน้าที่ให้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรีเพื่อดำเนินการต่อไป คณะทำงานฯจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ไว้เป็นหลักฐาน