เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ถึงวิธีการดูแล ควบคุมค่าครองชีพของประชาชน ว่า กระทรวงพาณิชย์พยายามดูว่าสิ่งที่ประชาชนต้องจับจ่ายใช้สอยคืออะไรบ้าง เพื่อให้เกิดความสมดุลกัน เริ่มต้นจากการดูราคาสินค้าอุปโภค บริโภค โดยทางกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ เพื่อทำหน้าที่ในการมอนิเตอร์ ดูแลควบคุมการเคลื่อนไหวของสินค้าอุปโภค บริโภค และแจ้งกลับมา ว่ามีสินค้าตัวใดค้ากำไรเกินควร และในสัปดาห์หน้าจะเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการ
นายบุญทรงกล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการเกษตรกรรายย่อยระบุว่า เขาจำเป็นต้องขึ้นราคาไข่อีก 40 สตางค์ ไม่เห็นด้วย
เพราะราคาปลายทางจะขึ้นตาม ส่วนราคาเนื้อหมู จากที่ได้ไปเดินสำรวจตลาดสดมา ราคาเนื้อหมูค้าปลีกก็ลดลงจากเดิมกิโลกรัมละ 130 บาท เหลือในราคา 105-110 บาท ซึ่งทางกลุ่มผู้เลี้ยงหมูก็มาพบ โดยระบุว่า ราคาหน้าฟาร์มตกลง แต่ราคาอาหารเพิ่มขึ้น ก็จะใช้โมเดลเดียวกับไข่ไก่ กระบวนการเราได้เริ่มแล้ว ก็จะได้อานิสงส์ไปถึงผู้เลี้ยงหมูด้วย และจะมีการหาตลาดให้ ทั้งนี้ ราคาเนื้อหมูที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 95-105 บาท แต่จะไปถึง 110 บ้างก็คงไม่แตกต่างเท่าไร อาจเพราะค่าเช่าแพง
ส่วนการปรับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้
นโยบายรัฐบาลก็จะต้องส่งเสริมให้ประชาชนหันไปใช้พลังงานทดแทน และไม่ใช่ว่าสินค้าทั้งหมดจะขึ้นราคา ต้นทุนพลังงานจริงๆ สำหรับสินค้าทั่วไปค่อนข้างต่ำ ราคาสินค้าก็จะมีความแตกต่างกันตามระยะทางการขนส่งสินค้าในแต่ละพื้นที่ด้วย รัฐบาลก็ได้เข้าไปดูแลล่วงหน้า ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์พยายามจะดูแลสินค้าปลายทางไม่ให้สูงเกินไปด้วย