ชาวบ้านเมินข้าวแกงธงฟ้า

วานนี้ ( 10 ก.พ.) รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ร้องเรียนจากประชาชนว่า โครงการนำร่องรถเข็นธงฟ้า
 
ขายข้าวแกงราคาถูกของกระทรวงพาณิชย์ ที่เพิ่งทดลองเปิดไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา 2 จุดในโรงอาหารกระทรวงพาณิชย์ ได้หยุดจำหน่ายแล้ว ทั้งที่เพิ่งเปิดโครงการไม่ถึง 1 สัปดาห์  โดยจากการสอบถามประชาชน และร้านค้าใกล้เคียงรถเข็นธงฟ้าพบว่า ไม่ได้รับความนิยมนัก เนื่องจากคุณภาพ และปริมาณอาหารมีจำกัด  แม้ราคาจะถูกกว่าท้องตลาดก็ตาม โดยโครงการรถเข็นธงฟ้ากำหนดราคาแกงราดกับข้าว 1 อย่าง 15 บาท และกับข้าว 2 อย่าง 20 บาท แม้เป็นราคาที่ถูกกว่าร้านค้าอื่น แต่อาหารมีปริมาณน้อย ประชาชนจึงหันไปบริโภคร้านอื่นแทน และต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ ปรับรูปแบบการแก้ปัญหาใหม่ เช่น หากต้องการผลักดันรถเข็นธงฟ้า ไม่ควรคำนึงราคาที่ถูกเกินไปเพียงอย่างเดียว จะต้องให้ความสำคัญคุณภาพอาหารด้วย โดยถ้ากำหนดราคาข้าวแกงรถเข็นธงฟ้าจานละไม่เกิน 25 บาท ถือเป็นราคาที่ประชาชนรับได้ แต่ขอให้ทำอาหารมีรสชาติอร่อย หลากหลาย และปริมาณมากกว่าร้านอาหารทั่วไป และที่สำคัญควรมีการตั้งจุดขายในแหล่งชุมชน พื้นที่อื่นด้วย โดยเฉพาะแหล่งที่อาหารจานละ 35-40 บาท ที่รัฐไม่สามารถไปควบคุมราคาได้

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ยังไม่ได้ยุติโครงการรถเข็นธงฟ้า แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
มีร้านค้าหยุดไปหลายวันเนื่องจากคนขายขอลาหยุดติดธุระ อีกทั้งบางวันตรงกับช่วงที่กระทรวงฯจัดตลาดนัด จึงเกรงว่าร้านจะขายไม่ดี เลยหยุดไปชั่วคราว แต่ยืนยันรถเข็นธงฟ้าจะเดินหน้าขายต่อทุกวันทำการ จะหยุดเฉพาะวันศุกร์ที่มีตลาดนัดเท่านั้น ส่วนการจะเพิ่มจุดรถเข็น จะต้องรอประเมินโครงการนำร่องก่อน หากประสบความสำเร็จก็พร้อมขยายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ได้มีประชาชนร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง

ว่าปัจจุบันนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปได้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับที่กระทรวงพาณิชย์ที่ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่มีสินค้ารายการใดปรับขึ้นราคา โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในบัญชีติดตามดูแล 205 รายการ มีการขึ้นราคาได้อย่างเสรี  นอกจากนี้ ยังพบว่ากรณีสินค้าที่กรมการค้าภายในติดตามดูแลเป็นพิเศษ และให้แจ้งการปรับขึ้นราคาก่อน ผู้ผลิตก็จะใช้วิธีเลี่ยงไม่ผลิตสินค้าดังกล่าว หันไปปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้า เช่น เปลี่ยนฉลาก ปรับขนาดบรรจุ แล้วขอตั้งราคาใหม่ ก็สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้ทางอ้อม ซึ่งสินค้าที่ใช้วิธีการดังกล่าวมีเป็นจำนวนมาก ทั้งสบู่ แชมพู ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ครีมบำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นหรือดับกลิ่น ซอสปรุงรส เป็นต้น