บริษัทสินค้าแบรนด์เนมกุชชีของอิตาลี ได้ส่งจดหมายเตือนไปยังร้านขายกระดาษกงเต็กในฮ่องกงหลายแห่งไม่ให้ขายกระดาษกงเต็กผลิตภัณฑ์กุชชี
บริษัทสินค้าแบรนด์เนมกุชชีของอิตาลี ได้ส่งจดหมายเตือนไปยังร้านขายกระดาษกงเต็กในฮ่องกงหลายแห่งไม่ให้ขายกระดาษกงเต็กผลิตภัณฑ์กุชชี ทำให้ขณะนี้บางร้านยอมทำตามด้วยการเลิกขายกระดาษกงเต็กกุชชีแล้ว แต่ยังขายผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมอื่น ๆ ต่อไป รวมถึง หลุยส์ วิตตอง อิฟ แซง โลรองต์ เบอร์เบอรี และนิวบาลานซ์
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของกุชชี ไม่ได้ขู่ว่าจะเอาผิดทางกฎหมาย เพียงแต่บอกว่า บริษัทเคารพในความเชื่อทางพิธีกรรมงานศพ และเชื่อว่าเจ้าของร้านไม่มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์ของกุชชี และชี้ว่า จดหมายที่ส่งให้ตามร้านค้าต่าง ๆ นั้น เป็นเพียงแค่การให้ข้อมูลและชี้แจงถึงเหตุผลที่บริษัทต้องขอให้ร้านค้าเหล่านั้น หยุดขายกระดาษกงเต็กยี่ห้อของตน
การเคลื่อนไหวของกุชชีครั้งนี้ ได้ทำให้เกิดข้อวิจารณ์ และการโพสต์ข้อความล้อเลียนในสังคมโซเชียลกันอย่างอึกทึก วินเซนต์ ชาร์ลส์ ผู้โพสต์คนหนึ่งบอกว่า กุชชีน่าที่จะไปเปิดสาขาในปรโลกให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสต์ว่า กุชชีน่าที่จะผลิตกระดาษกงเต็กยี่ห้อตัวเองขาย ส่วนอีกคน กล่าวเสียดสีว่า คนธรรมดา ๆ ที่ยังไม่ตายจำนวนมากไม่มีปัญญาหาซื้อกุชชีมาใช้ แม้กระทั่งตายแล้ว กุชชีก็ยังขัดขวางไม่ให้คนเหล่านั้นได้ครอบครองเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ของตนอีก
ผู้สื่อข่าวบีบีซีอธิบายเรื่องของการเผากระดาษกงเต็กว่าเป็นเรื่องธรรมดาในโลกของคนจีนที่เชื่อมโยงโลกของผู้ที่ตายแล้วเข้ากับตน พวกเขาเชื่อว่าเพื่อจะให้คนเป็นยังอยู่ดี ก็จะต้องดูแลคนตายให้ดีด้วย เป็นที่มาของการเก็บกวาดทำความสะอาดหลุมฝังศพเรื่อยๆ นำอาหารและสิ่งของต่างๆไปให้รวมไปถึงการเผาสิ่งของจำลอง มาในปัจจุบัน ลูกหลานจำนวนมากไปสรรหาข้าวของที่บรรพบุรุษของตนไม่อาจมีใช้ได้ในยามมีชีวิตอยู่เพื่อส่งไปให้พวกเขา เช่นบ้านขนาดใหญ่ รถเก๋งแพงๆ เสื้อผ้าข้าวของสินค้ามียี่ห้อ หรือแม้แต่คนรับใช้ชาวตะวันตกก็มี