รฟม.ไฟเขียวรถไฟฟ้า5เมืองใหญ่ จังหวัดไหนบ้างเช็คที่นี่!!

รฟม.ไฟเขียวรถไฟฟ้า5เมืองใหญ่ เล็งสร้าง"เชียงใหม่-โคราช-หาดใหญ่-ภูเก็ต-ชลบุรี"

  บอร์ดรฟม.เห็นชอบรวมสัญญาประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู "แคราย-มีนบุรี" และสีเหลือง "ลาดพร้าว-สำโรง" จากสีอื่นๆ ที่แยกประมูลเป็นส่วนๆ อ้างทำให้เร็วขึ้นและเอกชนรับภาระลงทุนทั้งหมด พร้อมให้ศึกษาแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าใน 5 เมืองใหญ่ทั่วประเทศ
 
พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ รฟม. กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดรฟม.

มีมติให้ปรับแผนการดำเนินรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 ก.ม. และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 ก.ม. เปลี่ยนวิธีการประกวดราคารวมเป็นสัญญาเดียวทั้งงานก่อสร้างระบบ โดยให้สัมปทานเอกชนที่จะเข้ามารับถาระการลงทุน 100% ทั้งการก่อสร้างระบบราง จัดหาขบวนรถไฟฟ้า รวมทั้งบริหารการเดินรถและซ่อมบำรุง


 “ที่ประชุมหารือกันอย่างกว้างขวางและเปรียบเทียบทั้งข้อดีข้อเสียพบว่าแนวทางนี้มีความเหมาะสมกับระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล (รางเดี่ยว) เพราะทำให้รัฐบาลรับภาระความเสี่ยงน้อยที่สุด และแบกรับภาระการลงทุนน้อย ทำให้ระยะเวลาในการก่อสร้างเร็วขึ้น 6-12 เดือน และเกิดผลดีในการบริหารจัดการในระยะยาว เนื่องจากเอกชนจะต้องเป็นผู้รับภาระความเสี่ยงในการลงทุน คล้ายกับรถไฟฟ้าบีทีเอส กำหนดอายุสัมปทานเบื้องต้นประมาณ 30 ปี”

พล.อ.ยอดยุทธกล่าวอีกว่าบอร์ด รฟม.ยังเห็นชอบให้ศึกษาแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าใน 5 เมืองใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาจราจร คือ เชียงใหม่ นครราชสีมา หาดใหญ่ ภูเก็ต และชลบุรีด้วย


 ขณะที่นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่า รฟม. กล่าวว่าถึงแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าใน 5 เมืองใหญ่ ว่า

เนื่องจาก 5 เมืองมีปัญหาจราจร และยังมีแนวโน้มปริมาณการเดินทางที่สูงเนื่องจากเป็นจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม เบื้องต้นคาดว่าจะสร้างเป็นระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล (รางเดี่ยว) เพราะเหมาะสมกับเมืองขนาดไม่ใหญ่มากนัก ส่วนรูปแบบการลงทุน แนวเส้นทาง และวงเงินงบประมาณในการก่อสร้าง รฟม.จะต้องศึกษารายละเอียดก่อน เพื่อนำไปเทียบเคียงกับผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสม

 “ก่อนหน้านี้ สนข.ศึกษารถไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาจราจรใน 5 เมืองใหญ่มาแล้ว แต่ก็ยังมีบางเส้นทางที่แตกต่างออกไป ดังนั้นต้องนัดหารือ 2 ฝ่ายเพื่อสรุปร่วมกันอีกครั้งว่าจะสร้างที่ไหนบ้าง สำหรับรูปแบบการลงทุนท้องถิ่นเสนอขอร่วมลงทุนด้วย ส่วนการเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนก็มีความเป็นไปได้”