
"บิ๊กตู่"ส่ง"บิ๊กแดง" ทลายห้าง5เสือ ตรึงหวย80บ. ขุมทรัพย์หมื่นล้านสะเทือน!
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
เป็นความหวังของบรรดานักเสี่ยงโชคที่จะได้ซื้อหวย (สลาก) ในราคา 80 บาท เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดสินใจใช้อำนาจพิเศษในมาตรา 44 ประกาศมาตรการแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา
ถัดจากนั้นเพียงวันเดียวมีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ มานั่งประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดสลาก) คนใหม่
ถือเป็นคนนอกกระทรวงการคลังคนแรกที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ โดยเป็นการใช้อำนาจตามประกาศมาตรา 44 แต่งตั้งขึ้นมาพร้อมๆ กับคนที่ คสช.ต้องแต่งตั้งมาเป็นกรรมการอีก 3 คน คือ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข พ.ท.หนุน ศันสนาคม และนายธนวรรธน์ พลวิชัย
ประกาศ คสช.ผ่านมากว่า 1 สัปดาห์ แต่บอร์ดสลากยังไม่สามารถนัดประชุมครั้งแรกได้
เพราะต้องรอกระทรวงต้นสังกัดส่งตัวแทนเข้ามาเป็นบอร์ดสลากอีก 7 คน คาดว่าเร็วสุดสัปดาห์หน้าจึงจะนัดประชุมบอร์ดได้ ซึ่งการประชุมบอร์ดสลากมีความสำคัญ เพราะนโยบายต่างๆ ที่จะนำมาใช้ดูแลสลากต้องผ่านบอร์ดทุกเรื่อง
′สลากกินแบ่งฯ′ขุมทรัพย์หลายหมื่นล้าน
วงการสลากถูกจับจ้องและถูกมองว่าเป็นวงการแห่งขุมทรัพย์ เพราะกินส่วนต่างจากราคา 80 บาท ปีละหลายหมื่นล้านบาท ขณะนี้ราคาเฉลี่ยสลากในตลาดอยู่ที่ 100 บาทต่อใบ ยิ่งงวดไหนขายดี เลขสวย เลขดังราคาขายพุ่งไปที่ 130-150 บาทต่อใบ
ดังนั้น ถ้าขายใบละ 100 บาท คิดเป็นมูลค่าส่วนต่าง 17,760 ล้านบาท ถ้าใบละ 110 บาท ส่วนต่างมีมูลค่า 26,640 ล้านบาท และถ้าขายใบละ 120 บาท ส่วนต่างมีมูลค่าถึง 35,520 ล้านบาท ซึ่งส่วนต่างที่เกิดขึ้นมากกว่าเงินรายได้ที่กองสลากส่งเข้าคลังปีละกว่า 15,000 ล้านบาทเท่าตัว
แม้จะมีความพยายามปราบหวยแพง แต่ผู้ค้าชอบอ้างว่าที่ต้องขายเกินราคา เพราะต้องแบกรับเลขไม่สวย
อาทิ เลข 000000 หรือเลขที่ออกไปแล้วในงวดที่แล้ว ดังนั้น ครั้งนี้ในมาตรา 44 จึงให้เครื่องมือต่อสู้สลากแพง ด้วยการตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคมขึ้นมา กองทุนนี้จะทำหน้าที่ซื้อคืนสลากที่ขายออกไปแล้วแต่ไม่มีคนซื้อ เพื่อตัดข้ออ้างของกลุ่มผู้ค้า โดยนำเงินมาจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล 3% คาดว่าจะมีเงินเข้ากองทุนปีละประมาณ 1,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดจะเพิ่มกำไรให้ผู้ค้ามากขึ้น ด้วยการลดราคาขายส่งเหลือ 70 บาทต่อใบ
จากเดิม 74.40 บาทต่อใบ หรือคนขายได้กำไรใบละ 5.60 บาท คิดเป็นส่วนลด 7% รายใหญ่ขายส่งที่ 72.80 บาทต่อใบ หรือได้กำไรใบละ 7.20 บาท คิดเป็นส่วนลด 9% ซึ่งการลดราคาขายส่งเหลือ 70 บาท คิดเป็นส่วนลดที่ผู้ค้าจะได้ถึง 14% จะช่วยให้ผู้ค้ามีกำไรมากขึ้น เมื่อได้กำไรมากขึ้นจะได้หมดข้ออ้างขายแพง คาดว่าส่วนลดใหม่จะเริ่มในเดือนมิถุนายน 2558
"เสือรายใหญ่" กวาดโควต้า
หลายคนคงนึกถึงโควต้าหลายสิบล้านฉบับในมือของกลุ่มเสือ แต่ถ้ามาดูโควต้าที่ได้รับจัดสรรอย่างเป็นทางการจากกองสลากพบว่า กลุ่มนิติบุคคลกว่า 2,600 ราย ได้รับจัดสรรสลากเพียง 11.7 ล้านฉบับ (2 ฉบับ เท่ากับ 1 ใบ) คิดเป็นสัดส่วนเพียง 16% ของจำนวนสลากทั้งหมด 74 ล้านฉบับ
ในจำนวนของนิติบุคคลนี้ ถ้าดูของกลุ่มเสือ 3-4 ราย พบว่าได้รับจัดสรรเพียง 6 ล้านฉบับ คิดเป็น 8% ของจำนวนสลากทั้งหมดเท่านั้น ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนรายย่อยกว่า 30,000 ราย ที่ได้โควต้ารวมกันประมาณ 32.2 ล้านฉบับ คิดเป็นสัดส่วน 44% ของจำนวนสลากทั้งหมด
ส่วน มูลนิธิสมาคม องค์กรการกุศลที่ได้โควต้ามีประมาณ 1,300 ราย ได้รับสลากประมาณ 25.4 ล้านฉบับ คิดเป็น 34% ของจำนวนสลากทั้งหมด และกลุ่มคนพิการกว่า 5,000 ราย ได้รับสลากประมาณ 4.6 ล้านฉบับ คิดเป็น 6% ของจำนวนสลากทั้งหมด
แม้กลุ่มเสือจะได้รับโควต้าน้อยมาก แต่กลุ่มเสือในฐานะพี่ใหญ่ของวงการมีเครือข่ายและเส้นสายในการเข้าไปกว้านซื้อสลากของรายย่อยของคนพิการ หรือแม้แต่ของสมาคม องค์กรการกุศล
รวมถึงใช้เส้นสายของนักการเมืองในยุคนั้นๆ ไปกวาดโควต้าของมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีโควต้าในมือเกือบเท่านิติบุคคลมาไว้ในครอบครอง เมื่อมีจำนวนสลากในมือมาก ทำให้การขายสลากพัฒนาไปถึงขั้นนำเลขที่เหมือนกันมารวมชุด 5 ใบ 10 ใบ 20 ใบ และเพิ่มราคาให้สูงขึ้น เพื่อล่อกิเลสบรรดาเซียนหวย ทำให้ภาพของการขายสลากยังถูกผูกขาดโดยกลุ่มเสือ
เบื้องลึกเบื้องหลังของ 5 เสือรายใหญ่ที่ถูกพูดถึงนั้น หมายถึงกลุ่มนิติบุคคลที่เคยได้รับโควต้าสลากการกุศลที่ออกมาในช่วงแรกๆ แล้วขายไม่ออก โดยมี 5 บริษัทที่ขอโควต้า ได้แก่ 1.บริษัท สลากมหาลาภ 2.บริษัท ปลื้มวัธนา (ชื่อใหม่ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ซิสเต็มส์) 3.บริษัท ไดมอนด์ ล็อตโต้ 4.บริษัท หยาดน้ำเพชร และ 5.บริษัทบีบี เมอร์ชานท์
โดยทั้ง 5 บริษัทจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มของ "เจ๊แดง" นางปลื้มจิตต์ กนิษฐ์สุด มี 3 บริษัท คือ สลากมหาลาภ ปลื้มวัธนา และ ไดมอนด์ ล็อตโต้
ส่วนอีก 2 บริษัท เป็นของ "เจ๊สะเรียง" น.ส.สะเรียง อัศววุฒิพงศ์ คือหยาดน้ำเพชร และบริษัทบีบี เมอร์ชานท์ แต่ต่อมามีการล้างโควต้าสลากการกุศล ทำให้เหลือแค่สลากมหาลาภและหยาดน้ำเพชรที่ยังได้โควต้าต่อมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดพบว่าทั้ง 2 แห่งได้โควต้าแห่งละ 1.6 ล้านฉบับ
นอกจาก 2 กลุ่มดังกล่าวแล้ว ในช่วงหลังมีชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ามาเป็นเสืออีกตัว จากการเทกโอเวอร์ห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญฤดีที่ได้โควต้าสลากในเครือเจ๊แดง โดยล่าสุดพบว่าห้างหุ้นส่วนขวัญฤดีได้โควต้าเท่ากับกลุ่มเจ๊แดง เจ๊สะเรียงคือ 1.6 ล้านฉบับ และติดอันดับต้นๆ ของกลุ่มที่ได้รับโควต้ามากที่สุด
มติชนรายวัน
วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 38 ฉบับที่ 13574
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday