27 ม.ค.58 ตามที่ธนาคารได้มีการแถลงชี้แจงเกี่ยวกับกรณีของบัญชีเงินฝากของสจล. กับสื่อมวลชนไปแล้ว
เมื่อ วันศุกร์ที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญและสังคมยังคงมีคำถามในอีกหลายประเด็น ในวันนี้ ธนาคารจึงได้จัดให้มีการแถลงข่าวโดย ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร เพื่อชี้แจงในจุดยืนและนโยบายของธนาคารเกี่ยวกับกรณีนี้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย สรุปใจความสำคัญได้ดังนี้
เรื่องเอกสาร ธนาคารขอยืนยันว่าธนาคารได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ โดยเริ่มส่งเอกสารให้ตั้งแต่ วันที่ 17 ธันวาคม จนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดคือ เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.58) ความล่าช้าที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นการรวบรวมเอกสารย้อนหลังจำนวนมาก และมีเอกสารหลายรายการที่ธนาคารต้องประสานขอจากธนาคารอื่นด้วย สำหรับเอกสารที่ สจล. ขอมานั้น ธนาคารได้ส่งให้แล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งความล่าช้าที่เกิดขึ้นแก่สจล.นั้น ธนาคารขอยอมรับว่า เป็นเพราะที่ผ่านมาธนาคารให้ความสำคัญกับการนำส่งหลักฐานให้ตำรวจเป็นลำดับแรก ซึ่งก็นับว่าเป็นผลดีต่อคดีทำให้ตำรวจสามารถติดตามขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตนี้
เรื่องอดีตผู้จัดการสาขาที่เกี่ยวข้อง (นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา บิ๊กซี สุวินทวงศ์)
เมื่อธนาคารพบความผิดปกติได้ทำการตรวจสอบและพบว่า มีการไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ธนาคารจึงติดต่อกลับไปยังเจ้าของบัญชี เพื่อขอให้ตรวจสอบและขอให้ยืนยัน ซึ่งก็ได้รับหนังสือยืนยันความถูกต้องกลับมา อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนั้น เจ้าของบัญชีจะไม่มีประเด็นเรื่องการทุจริต แต่พฤติกรรมที่มีการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบ ธนาคารจึงขาดความไว้วางใจที่จะให้ปฏิบัติงานต่อไป และให้พนักงานลาออกไป
ธนาคารขอเรียนว่า แม้ว่าในขณะเวลานั้น ธนาคารมิได้ดำเนินการทางกฎหมายกับพนักงาน แต่ในภายหน้าหาก ผลการสอบสวนของตำรวจพบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า พนักงานธนาคารร่วมทำการทุจริตอันเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ธนาคารพร้อมที่จะรับผิดชอบตามกฎหมายและตามกระบวนการยุติธรรม
ธนาคารยืนยันในการให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ ไม่มีการประวิงคดี เพราะธนาคารก็ต้องการให้เรื่องกระจ่างเช่นกัน
นอกจากนี้ จะได้จัดให้มีทีมผู้บริหารไปพบสถาบันการศึกษาอื่นๆ เพื่ออธิบายและสร้างความมั่นใจ รวมถึงจะกำหนดเป็นนโยบายทางวินัยให้ชัดเจนว่า แม้จะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนในเชิงทุจริตที่จะดำเนินคดีอาญา กับพนักงานได้ก็ตาม แต่หากมีพฤติกรรมที่ธนาคารขาดความไว้วางใจที่จะให้ปฏิบัติงานต่อไปแล้ว ให้กำหนดโทษ ขั้นไล่ออกไว้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อแสดงจุดยืนของธนาคารที่จะไม่ประนีประนอมต่อเรื่องทุจริต