ฟันธงน้ำมันโลกขาลงยันสิ้นปี ดีเซลปรับลดต่ำสุดรอบ 3 ปี

ฟันธงน้ำมันโลกขาลงยันสิ้นปี ดีเซลปรับลดต่ำสุดรอบ 3 ปี

ฟันธงน้ำมันโลกขาลงยันสิ้นปี ดีเซลปรับลดต่ำสุดรอบ 3 ปี 28.89 บาท/ลิตร

เช้าวันนี้ราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับลดลงแล้วกว่า 60  สตางค์ต่อลิตร ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยนักวิชาการด้านพลังงานก็เชื่อว่าราคาน้ำมันจะทยอยปลับลดลงอีกตลอดเดือนธันวาคม

รายงานข่าวแจ้งว่า ปตท. และบางจาก ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเฉพาะในส่วนของน้ำมันดีเซลลงอีก 60 สตางค์ต่อลิตร

 มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 28.79 บาท/ลิตรเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2554 ซึ่งราคาดีเซลอยู่ที่ 28.89 บาทต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันชนิดอื่นยังยืนราคาเดิม ประกอบด้วยแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 33.70 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 31.68 บาท/ลิตร อี 20 อยู่ที่ 30.38 บาทต่อลิตร อี 85 อยู่ที่ 22.88 บาทต่อลิตร

โดยนายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่าการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมัน ในประเทศลง 60 สตางค์เฉพาะในส่วนของดีเซล เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร

จากการปรับลดราคาน้ำมันล่าสุดในวันที่ 1 ธ.ค. ทำให้ค่าการตลาดยังอยู่ที่ระดับ 1.40 บาทต่อลิตร

ทำให้คาดว่าหากราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ที่ปิดตลาดเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ลดลงอีก 2-3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก็จะทำให้ผู้ค้าสามารถลดราคาขายปลีกในประเทศได้อีกครั้งในปลายสัปดาห์นี้ประมาณ 40-50 สตางค์ต่อลิตร   จึงอาจถือเป็นข่าวดีของผู้ใช้น้ำมันตลอดทั้งเดือนธ.ค. เพราะมีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะลดต่ำลงมาแตะระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเร็วๆ นี้ และจะเคลื่อนไหวไม่เกิน 60-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะทำให้ราคาขายปลีกในประเทศทยอยลดลงเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันดิบแตะระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปทั้งเบนซินและดีเซล สามารถปรับลดลงตามไปด้วยที่ 4-5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลดลงได้อีก 1 บาทต่อลิตร

ด้านนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน ชี้แจงกรณีสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านพลังงาน
 
ตั้งข้อสังเกตถึงการปรับลดราคาน้ำมันในประเทศไม่สอดคล้องกับราคาตลาดโลกที่ลดลงว่า ยืนยันน้ำมันในประเทศในส่วนของราคาเนื้อน้ำมันได้ปรับลดลงต่อเนื่องตามราคาตลาดโลก แต่ในส่วนที่ไม่สามารถปรับลดลงได้ คือภาษีสรรพสามิตน้ำมันและเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการนำเงินจากกองทุนไปชดเชยราคาแอลพีจีไว้จำนวนมาก

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์