ฮั่วเซ่งเฮง ไขโจทย์ ตื่นทอง ราคาต่ำสุด...ไม่ได้หมายถึงกำไรสูงสุด

ฮั่วเซ่งเฮง ไขโจทย์ ตื่นทอง ราคาต่ำสุด...ไม่ได้หมายถึงกำไรสูงสุด

ช่วงนี้กระแสเล่นทองคำก็กลับมาฮอตอีกครั้งโดยเฉพาะ"ทองรูปพรรณ"และ"ทองคำแท่ง" ส่วนจะมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง "ประชาชาติธุรกิจ" ได้พูดคุยกับ "ธนรัชต์ พสวงศ์"กรรมการผู้จัดการ กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง เพื่อไขข้อข้องใจดังกล่าว

เหตุใดทองกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง

คือวันที่ 30-31 ต.ค.ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงมากบาทละ 900 บาท ราคาเหลือแค่บาทละราว 18,000 บาท จากก่อนหน้านี้อยู่ที่เกือบ 19,000 บาท สาเหตุเพราะคณะกรรมการนโยบายการเงินของประเทศสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติมาตรการทางการเงินเชิงปริมาณ (QE) ที่ใช้มา 6 ปี ทำให้ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.เป็นต้นมา หน้าร้านของเราก็เริ่มมีคนมาเข้าแถวรอซื้อทองทั้งรูปพรรณและทองคำแท่ง เรียกได้ว่าการค้าทองกลับมามีสีสันอีกครั้ง หรือจะบอกว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตลาดค้าทองคำ (Physical) ในปีนี้เลยก็ได้ ซึ่งฮั่วเซ่งเฮงได้คาดการณ์ไว้แล้ว จึงมีสต๊อกสินค้าทั้งทองแท่งและทองรูปพรรณทุกแบบทุกลายไว้ไม่ให้ขาดตลาดเหมือนช่วงหลังสงกรานต์ปีก่อนอย่างแน่นอน

ราคาทองระดับนี้น่าสนใจซื้อแค่ไหน


ราคาทองคำในขณะนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะเรียกได้ว่าต่ำสุดในรอบ 4 ปี มีราคาถูกจนใกล้หน้าเหมืองที่ 1,100 เหรียญสหรัฐ หรือบาทละกว่า 17,000 บาท แต่เราก็คงไม่สามารถประเมินได้ว่า "กระแสตื่นทอง" รอบนี้จะทำให้ประชาชนแห่เข้ามาซื้อทองรูปพรรณและทองคำแท่งอย่างคึกคักยาวนานแค่ไหน เพียงแต่สิ่งที่พอจะระบุได้จากกระแสความต้องการซื้อทองครั้งนี้คือเราพบว่ามีความต้องการ "ซื้อทองคำแท่งเพื่อลงทุน" เป็นมูลค่าที่สูงกว่าทองรูปพรรณ และส่วนใหญ่จะมาต่อคิวซื้อทองน้ำหนักประมาณ 10 บาท

 ชี้ถึงการลงทุนทองคำเริ่มฟื้นตัว

คงพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะต้องทำความเข้าใจภาพรวมของทิศทางราคาทองคำกันก่อนว่า ในระยะยาวยังคงเป็น "ขาลง" ทั้งยังมีความเสี่ยงหลายประการรออยู่ อาทิ ความเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำโลก ซึ่งเกิดจากการที่นักลงทุนต่างประเทศหรือกองทุนต่าง ๆ โยกย้ายเงินลงทุนไปสู่หุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่า จึงอาจทำให้ราคาทองปรับตัวลดลง และความผันผวนของค่าเงินสหรัฐที่มีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะหากมีการกู้ยืมเงินเยนที่มีดอกเบี้ยต่ำเพื่อไปลงทุนในตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูง (เยน แครี่เทรด) อย่างเช่น ตลาดหุ้นสหรัฐ ก็จะยิ่งกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงไปอีก ทั้งนี้ เพราะทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเสมอ

ผู้ลงทุนควรวางกลยุทธ์อย่างไร

สำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมาย "ซื้อทองเพื่อการลงทุน" ควรจะใช้กลยุทธ์ทำกำไรเป็นรอบ ๆ หมายถึงการซื้อขายระยะสั้นมากกว่าที่จะถือยาว ๆ เพราะหลังจากนี้จะยังมีความเสี่ยงที่อาจจะเข้ามากดดันให้ราคาปรับตัวลดลงได้อีก ดังนั้นการที่ราคาทองคำปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี จึงไม่ได้หมายความว่านักลงทุนจะสร้างกำไรสูงสุดได้ เพราะหากเทียบกับหุ้นแล้ว ก็ถือว่าทองคำยังสร้างผลตอบแทนได้น้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม หากประเมินการลงทุนในระยะสั้น ฮั่วเซ่งเฮงประเมินกรอบการแกว่งตัวของทองคำว่าน่าจะมีแนวรับที่ 1,135 เหรียญหสรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 17,600 บาท และแนวต้านที่ 1,165 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 18,000 บาท ซึ่งนักลงทุนก็ยังมีโอกาสในการทำกำไรได้อยู่

ส่วนผู้ซื้อที่จะ "ซื้อเพื่อการสวมใส่ ใช้เป็นเครื่องประดับ" ราคาในขณะนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะราคาต่ำมากแล้ว จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในรอบหลายปี

เป็นอีกเสียงสะท้อนจากร้านทองตู้แดงย่านมังกรเยาวราช "ฮั่วเซ่งเฮง" ฝากมาถึงผู้ที่จะซื้อทองให้มีการวิเคราะห์เป้าหมายลงทุน พร้อมทั้งวางกลยุทธ์อย่างเหมาะสม

ฮั่วเซ่งเฮง ไขโจทย์ ตื่นทอง ราคาต่ำสุด...ไม่ได้หมายถึงกำไรสูงสุด


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์