TAXI กทม.ขอขึ้นราคา10% ขู่! จะปิดมิเตอร์วิ่ง

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ธุรกิจ TAXI กทม.ขอขึ้นราคา10% ขู่! จะปิดมิเตอร์วิ่ง

เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในกรุงเทพฯ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอปรับขึ้นราคามิเตอร์อีก 10% ให้สอดรับกับค่าครองชีพ และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น พร้อมขู่หากไม่ได้ตามคำขอ จะยกเลิกกดมิเตอร์โดยจะให้วิธีต่อรองราคากับผู้โดนสารแทน

นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในกรุงเทพฯ

เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชนฯ เพื่อขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารแท็กซี่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการแท็กซี่เคยยื่นหนังสือต่อกระทรวงคมนาคมแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ประกอบกับขณะนี้กระทรวงพลังงานมีนโยบายปรับขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีและเอ็นจีวี ทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้คณะกรรมการเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในกรุงเทพฯ มีมติขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการ 3 ข้อ คือ

1.ปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ตามระยะทาง
2.ขยายอายุการใช้งานรถแท็กซี่มิเตอร์จาก 9 ปี เป็น 12 ปี
3.ยกเว้นภาษีรถที่จะนำมาจดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า สหกรณ์แท็กซี่ฯ จะให้เวลารัฐบาลพิจารณาการปรับค่าโดยสารแท็กซี่อีกระยะหนึ่ง

หากยังเพิกเฉย เมื่อนั้นสหกรณ์จะเลิกคิดค่าโดยสารแบบกดมิเตอร์ทันที และมาใช้วิธีต่อรองราคากับผู้โดยสารแทน ซึ่งยอมรับว่า แม้เป็นวิธีผิดกฎหมาย แต่ก็จำเป็นเพราะตอนนี้อาชีพแท็กซี่หลายคนขับไปแล้วขาดทุน มีรายได้หักค่าใช้จ่ายเหลือน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทเสียอีก

ด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีผู้ขับแท็กซี่ขู่จะเลิกกดมิเตอร์คิดค่าโดยสาร

และหันมาใช้วิธีต่อรองราคาแทน หากภาครัฐไม่ขึ้นค่าโดยสารให้ ถือว่ามีความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 ถ้าไม่กดมิเตอร์ หรือไม่คิดค่าโดยสารตามที่กำหนด จะถูกโทษปรับครั้งแรกไม่เกิน 1,000 บาท แต่หากกระทำผิดซ้ำซาก ครั้งที่ 2 จะปรับ 1,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 7 วัน ส่วนครั้งที่ 3 ปรับ 1,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 15 วัน หากกระทำผิดข้อหาเดียวกัน 3 ครั้ง ใน 1 เดือน จะปรับ 1,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที