วันที่ 14 ส.ค. นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวถึงการที่ประชาชนร้องเรียนราคาอาหารตามแหล่งท่องเที่ยวสูงเกินจริงว่า ได้กำชับให้การค้าภายในจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบการจำหน่ายอาหารบริเวณแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้ความเป็นธรรมผู้บริโภค โดยต้องพิจารณาจากต้นทุนวัตถุดิบ ค่าใช้จ่าย พื้นที่ ประกอบการพิจารณาราคาอาหารด้วยว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ อย่างไรก็ตามในแง่ของระเบียบปฏิบัติการพิจารณา ควรเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นที่จะร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ต้องไปตรวจสอบ รายการอาหารและการบริการ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ได้อัตราที่เหมาะสม แต่หากใช้กฎหมายควบคุมอาจไม่ได้ผลเต็มที่ ควรใช้การลงโทษทางสังคมกับร้านค้าที่โก่งราคารายการอาหาร เหมือนในต่างประเทศมีการใช้มาตรการดังกล่าวบอกต่อไม่ให้ทานอาหารในร้านนั้นๆ ทำให้ร้านอาหารอยู่ไม่ได้
ร้านขายอาหารสำเร็จรูปหรือร้านอาหารตามสั่งมีจำนวนมาก มีการแข่งขันกันสูงการที่จะเข้าไปควบคุมราคาให้เป็นราคามาตรฐานเดียวกันเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นมาตรการการลงโทษทางสังคมที่มีการบอกต่อกันผ่านทางสื่อหรือช่องทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กต่างๆ ถือเป็นช่องทางที่ได้ผลในทางปฏิบัติมากกว่ากฎหมาย หากประชาชนพบว่าร้านใดขายแพงหรือค้ากำไรเกินควร ก็จะถูกแบนจากผู้บริโภคนายสันติชัยกล่าว
รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวอีกว่า การกำหนดราคาอาหารที่เป็นธรรมนั้นต้องบวกกำไรไม่เกิน 30% หากไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ขาย คณะกรรมการร่วมระดับจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการสามารถออกประกาศราคาแนะนำได้ และหากพบว่าราคาอาหารยังสูงเกินจริงอาจประกาศเป็นราคาควบคุม ทั้งนี้ หากผู้ค้ารายใดขายเกินราคาแนะนำ สามารถเอาผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการการ มาตรา 29 มีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท กรณีฉ้อโกง มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 6,000 บาท
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
