จ๊าก!ขรก.เบิกน้ำมันปีละ22,000ล้าน กรมบัญชีกลางบี้หนัก

จ๊าก!ขรก.เบิกน้ำมันปีละ22,000ล้าน กรมบัญชีกลางบี้หนัก

จ๊าก!ขรก.เบิกน้ำมันปีละ22,000ล้าน กรมบัญชีกลางบี้หนัก-ใช้บัตรเครดิตคุมใช้จ่าย

กรมบัญชีกลางกุมขมับ ขรก.เบิกค่าเดินทาง-น้ำมันปีละกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท จี้ใช้บัตรเครดิต-บัตรเติมน้ำมันควบคุมค่าใช้จ่าย เผยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี"47 แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช้ อ้างไม่สะดวก ชอบนำบิลมาเบิกมากกว่า หวั่นรั่วไหล

นาย มนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า จากสถิติการเบิกจ่ายค่าน้ำมันและค่าเดินทางของข้าราชการที่ผ่านมา

พบว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการทั้งในและต่างประเทศ การฝึกอบรม ประชุม สัมมนา มีมูลค่าโดยเฉลี่ยปีละประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท และงบประมาณที่เป็นค่าเชื้อเพลิงสูงถึงปีละประมาณ 1.06 หมื่นล้านบาท

นาย มนัสกล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณพ.ศ.2547

กรมบัญชีกลางเริ่มนำบัตรเครดิตราชการ มาใช้เบิกจ่าย ค่าเดินทางไปราชการชั่วคราวทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระของเจ้าหน้าที่ที่ต้องถือเงินสดจำนวนมากในการไป ปฏิบัติงานแต่ละครั้ง และช่วยให้การใช้จ่ายดังกล่าวมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้

"ต่อมาปีงบประมาณพ.ศ.2551 นำแนวคิดในเรื่องของบัตรเติมน้ำมันรถ (Fleet Card) มาใช้แทนชำระด้วยเงินสด คูปอง หรือใบสั่งจ่ายน้ำมัน ซึ่งช่วยให้ส่วนราชการสามารถควบคุมและบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมี ประสิทธิภาพและคล่องตัว" อธิบดีกรมบัญชีกลางกล่าว

นายมนัส กล่าวอีกว่า แต่จากการสำรวจการใช้บัตรของส่วนราชการจำนวน 283 แห่ง

มีเพียง 52 หน่วยงาน หรือคิดเป็น 18% ที่ใช้บัตรเครดิตราชการ และ 103 หน่วยงาน หรือคิดเป็น 36% ที่ใช้บัตรเติมน้ำมันรถราชการ หากคิดเชิงมูลค่าของการใช้บัตรเครดิตราชการ เพียง 1,924 ล้านบาท หรือ 8.75% ของงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และใช้บัตรเติมน้ำมันแค่ 72 ล้านบาท ซึ่งไม่ถึง 1%

"สาเหตุที่มีการใช้น้อยเนื่องจากส่วนราชการ อาจจะเห็นว่าการใช้บัตรเครดิตราชการและบัตรเติมน้ำมันรถราชการไม่สะดวกหรือ คล่องตัวเท่าที่ควร หรือเกิดปัญหาข้อขัดข้องบางประการ ซึ่งกรมบัญชีกลางได้รับฟังข้อเสนอแนะในประเด็นปัญหาต่างๆ จากการใช้บัตรดังกล่าว เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมให้มีการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น"นายมนัสกล่าว

อธิบดีกรม บัญชีกลางกล่าวอีกว่า การใช้บัตรเครดิตราชการและบัตรเติมน้ำมันรถราชการมีประโยชน์อย่างยิ่งกับ ส่วนราชการ
 
เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย การป้องกันความเสี่ยงจากการถือเงินสดจำนวนมาก ช่วยลดปัญหาการทุจริต และทำให้การใช้จ่ายเงินของภาครัฐเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์