พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) นัดแรกโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ว่า ในที่ประชุม กบง.มีมติเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติม 56 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมที่เรียกเก็บเพียง 25 สตางค์ต่อลิตร รวมเป็นเงินที่เรียกเก็บ 81 สตางค์ต่อลิตร ขณะเดียวกันมีมติให้ลดราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการลง 14 สตางค์ต่อลิตร จากราคาปกติที่ 29.99 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาใหม่จะอยู่ที่ 29.85 บาทต่อลิตร ซึ่งจะมีผลพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) โดยสาเหตุที่ปรับลดราคาลง เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกปรับลดลง จนทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 2.214 บาทต่อลิตร จากปกติที่รัฐบาลกำหนดให้ค่าการตลาดของดีเซลอยู่ที่ระดับ 1.50 บาทต่อลิตร ทำให้มีส่วนเกินอยู่ 70 สตางค์
ดังนั้นได้นำมาเฉลี่ยเพื่อเรียกเก็บเข้ากองทุน และให้เกิดสภาพคล่องมากขึ้น รวมทั้งเพื่อต้องการลดค่าครองชีพของประชาชน และภาคขนส่งที่ใช้น้ำมันดีเซลในชีวิตประจำวัน ขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุดติดลบอยู่ที่ประมาณ 7,500 ล้านบาท
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติตรึงการคงราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนไว้ที่ 22.63 บาทต่อกิโลกรัม ออกไปจนกว่าจะมีการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งหมด การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ทาง คสช.จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ โดยในวันอาทิตย์ที่ 15 มิ.ย.นี้ ทาง คสช. ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องด้านพลังงานทุกฝ่ายที่มีข้อมูล ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้านมาร่วมหารือ เพื่อรับฟังความเห็นและพิจารณาร่วมกันเพราะขณะนี้มีความสับสนว่า ประเทศไทยมีแหล่งพลังงานปิโตรเลียมมากน้อยเพียงใดและราคาที่แท้จริงควรกำหนดไว้ที่เท่าใด ก่อนที่จะมีมติปรับโครงสร้างราคาพลังงานอย่างเป็นทางการ เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
