“อังกฤษ ได้มีการจำหน่ายรถมือสองอย่างเป็นระบบ มีรูปแบบการจำหน่ายอย่างชัดเจนจากดีลเลอร์รายใหญ่ ขณะที่ไทยเริ่มมีดีลเลอร์อย่างเป็นระบบแล้ว เช่น โตโยต้า ชัวร์ เพราะมีมาตรฐานการดูแลลูกค้า และระบบบัญชี จึงต้องการนำระบบจำหน่ายรถมือสองของอังกฤษบางอย่างมาปรับใช้ เพราะปัจจุบันยอมรับว่า การขายรถในตลาดรถมือสอง มีราคาแตกต่างกัน แม้จะมีเป็นรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน สภาพต่างกัน ราคาจะไม่เหมือนกัน จึงต้องหาข้อกำหนดกลางขึ้นมาประเมิน เนื่องจากตัวเลขของกรมขนส่งทางบกมีการโอนรถทุกประเภทในแต่ละปีสูงมากถึง 3 ล้านคัน แต่เสียภาษียังไม่สูงมากนัก จึงต้องศึกษาระบบดังกล่าวไว้ และยังไม่สรุปว่าการจัดเก็บภาษีเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกหรือกรมสรรพากร จึงต้องเดินหน้าศึกษาเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน“
นายสุทธิชัย กล่าวว่า จากที่ได้ประเมินหากแนวทางดังกล่าวเสร็จสิ้น จะสามารถเพิ่มภาษีได้มากขึ้น
ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการเก็บภาษีในส่วนดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ก็ยังเป็นรายได้ที่ต่ำอยู่ ซึ่งเชื่อว่าจากนี้จะมีเม็ดเงินเข้ามา อย่างไรก็ตามแนวทางดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงที่ธุรกิจรถยนต์มือสองซบเซาพอดี เชื่อว่าจะยังไม่เห็นผลเท่าไร
สำหรับวิธีการจัดเก็บภาษีต้องอยู่ที่ผู้ค้าว่าเป็นบุคคลธรรมดา หรือเป็นนิติบุคคลฐานนิติบุคคล การประเมินราคาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน คิดจากราคาจากฐานไหน ราคารถ รุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน สภาพต่างกัน ราคาก็ไม่เหมือนกัน
“ถ้าให้กรมขนส่งเก็บแทน เป็นช่องทาง คล้ายกับกรมที่ดิน ก็จะง่ายขึ้น เม็ดเงินก็จะสามารถเข้ามาได้อย่างอัตโนมัติ โดยที่ผ่านมายอดการโอนรถอยู่ที่ 3 ล้านคัน หรือคิดเป็น 3 หมื่นล้านบาท รวมทุกประเภทมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ รถบรรทุก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี” นายสุทธิชัย กล่าว
นายสุทธิชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาการซื้อขายรถยนต์นั้นจะโอนลอย ทำให้กรมไม่สามารถไปเก็บภาษีทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม
และภาษีที่เกิดจากกำไรที่เกิดกับการซื้อขายกับเต็นท์รถยนต์ได้ ดังนั้นคงต้องหาระบบที่ทำให้การเสียภาษีเป็นไปอย่างถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีเต็นท์รถนั้นใช้วิธีการเข้าไปตรวจนับสต็อคของรถยนต์ แต่ทำได้ลำบาก เพราะบางเต็นท์รถตั้งอยู่อีกแห่ง แต่สต็อคอยู่อีกแห่ง
“ธุรกิจเต้นท์รถมือ 2 นั้นมีกำไรมากกว่าการทำธุรกิจรถใหม่ เพราะรถใหม่มีเพดานราคา แต่รถเก่านั้นไม่มีราคากำหนด ซึ่งสร้างกำไรอย่างมากให้กับผู้ดำเนินธุรกิจ แต่การเสียภาษีตรงนี้ไม่เกินขึ้นเลย เพราะใช้วิธีการโอนลอยในการซื้อขายรถยนต์ ดังนั้นจึงเสนอให้เก็บแบบการซื้อขายที่ดินคือทุกครั้งที่มีการโอนต้องมีการเสียภาษี”นายสุทธิชัย กล่าว
ขณะที่นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้เรียก 3 กรมภาษี
ทั้งกรมสรรพสามิต กรมสรรพากร และกรมศุลกากร เข้าหารือในเรื่องของแนวทางเพิ่มการจัดเก็บหลังจากที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าเป็นจำนวนมาก “กรมสรรพสามิตได้ศึกษาข้อเสนอของทางกระทรวงการคลังแล้ว และจะมีการรายงานกระทรวงการคลังในช่วงหลังสงกรานต์ โดยยังบอกไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือจะเป็นแนวทางไหน ต้องมีการหารือกับปลัดคลังก่อน จึงจะสรุปได้” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวถึงการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ว่า ทางกรมสรรพสามิตได้ทำการศึกษาในเรื่องดังกล่าวไว้บ้างแล้ว และได้มีการหารือกับภาคเอกชนอยู่ตลอด โดยในเบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการไว้ศึกษา เพื่อเตรียมเสนอหากมีรัฐบาลใหม่ได้
“ทางกรมก็ได้มีการศึกษาไว้ก่อน มีการคุยกับภาคเอกชนมาตลอด เช่น สภาหอการค้าไทย ถึงเรื่องปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตดังกล่าว ซึ่งก็มีความคล้ายคลึงกัน เผื่อมีรัฐบาลชุดใหม่จะเตรียมเสนอได้เลย” นายสมชาย กล่าว