คนแห่ช่วยชาวนาคึกคัก หลังสาขาธ.ก.ส.ทั่วประเทศเปิดรับฝากสมทบ 3 กองทุน
ยอดรวมล่าสุดบริจาคแล้ว 332 ล้านบาท นักธุรกิจเชื่อน่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด หลังชะลอตัว เพราะชาวนาไม่มีเงิน-กำลังซื้อ สมชัยโพสต์อีก แค่เห็นชอบให้รัฐบาลดำเนินการได้ ผู้อนุมัติคือครม. ผู้ยืมคือกระทรวงพาณิชย์ ถ้าคืนเงินไม่ทันป.ป.ช.ต้องไปเอาผิดครม.
วันที่ 6 มี.ค. รายงานข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า
จากการเปิดรับบริจาคและรับฝากเงินสมทบเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาเมื่อวันที่ 6 มี.ค. มียอดรวมทั้งสิ้น 331.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 114 ล้านบาท จากวันที่ 4 มี.ค. ที่มียอดอยู่ที่ 217.70 ล้านบาท โดยยอดบริจาคเข้ากองทุนที่ 1 แบบไม่ประสงค์รับเงินคืน รวม 13.34 ล้านบาท ส่วนยอดเงินสบทบเข้ากองทุนแบบที่ 2 แบบประสงค์รับเงินคืน แต่ไม่รับผลตอบแทน อยู่ที่ 258.40 ล้านบาท ขณะที่ยอดเงินสบทบเข้ากองทุนที่ 3 แบบประสงค์รับเงินคืนและรับผลตอบแทน มี 60.18 ล้านบาท
สำหรับบรรยกาศการเปิดตัวกองทุน ช่วยเหลือชาวนา ตาม ธ.ก.ส.ในสาขาต่างๆ ทั่วประเทศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชน ผู้ประกอบการธุรกิจ และข้าราชการ เดินทางนำเงินมาบริจาคสมทบเข้ากองทุนอย่างต่อเนื่อง
แห่ช่วยชาวนา 3 วัน-392ล้าน
นายยุทธนา เฮี้ยะหลง ผอ.สำนักงานธ.ก.ส. จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า
การดำเนินงานเปิดกองทุนวันแรกของ ธ.ก.ส.กำแพงเพชร ได้รับความสนใจ จากข้าราชการ ผู้ประกอบการโรงสี ห้างร้าน นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไป นำเงินมาเข้าสมทุบกองทุนช่วยเหลือชาวนาแบบไม่มีผลตอบแทน ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวภายหลังเป็นปรธานเปิดเปิดโครงการที่ ธ.ก.ส. ศรีสะเกษ ว่า
ได้ขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในเขต จ.ศรีสะเกษ ทั้งอบต. เทศบาล และอบจ.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้ระดมเงินฝากเข้าสมทบกองทุน ทั้งนี้จะได้นำเอาเงินไปหมุนใช้ช่วยเหลือชาวนา โดยขอให้นำเอาเงินสะสมของ อบต.ทุกแห่ง มาฝากสมทบเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาที่ธ.ก.ส.ทุกแห่งในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 31 ธ.ค. จะสามารถระดมเงินฝากเข้ากองทุนได้มากกว่า 100 ล้านบาท อีกทั้งขอเชิญชวนประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษ ให้นำเงินมา ฝากกับธ.ก.ส. เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาอย่างเต็มที่ต่อไปด้วย
นาย ธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.บุรีรัมย์ กล่าวหลังเป็นประธานเปิดโครงการที่ธ.ก.ส. บุรีรัมย์ ว่า
ทั้งนี้ผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการหลายหน่วยงาน พ่อค้า นักธุรกิจ และประชาชนจากหลายสาขาอาชีพ ได้มาร่วมฝากเงินสมทบเข้ากองทุนกันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งทาง ธ.ก.ส.คาดว่า ตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้มาร่วมบริจาคไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้เชิญชวนให้ทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการห้างร้านต่างๆ ได้มาร่วมบริจาคและสมทบเงินเข้ากองทุนดังกล่าวด้วย
นายอภิศักดิ์ อังคสิทธิ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งประเทศไทย และประธานสภาเกษตรกร จ.บุรีรัมย์
พร้อมด้วยนายทนงค์ ติระมาศเสถียร เจ้าของฟาร์มหมูแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ กล่าวหลังนำเงินมาฝากว่า เชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือให้กับชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำ ข้าวได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าโครงการนี้จะส่งผลดีทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นตามไปด้วย จากที่ก่อนหน้าต้องชะลอตัว เพราะชาวนาไม่มีกำลังซื้อ
นายโก เมนทร์ โคตรศรีวงษ์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาบึงกาฬ กล่าวว่า
หลังจากที่เปิดโครงการเสร็จ ผอ.ธกส.บึงกาฬ และพนักงานได้ร่วมกันบริจาคเงินเข้ากล่องเพื่อช่วยเหลือชาวนาทั่วประเทศ จากนั้นได้ออกเดินรณรงค์แจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการพร้อมกับออกรับ บริจาคเงินกับห้างร้านต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลบึงกาฬและหน่วยงานราชการ โดยได้รับความสนใจและมีผู้บริจาคเข้าโครงการเป็นจำนวนมาก
วันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง
โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงกรณี กกต. อนุมัติให้รัฐบาลใช้งบกลาง 20,000 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวว่า มีคนถามตนตลอดว่าเงินยืมงบกลาง 20,000 ล้านบาท หากไม่สามารถคืนคลังได้ภายในวันที่ 31 พ.ค. ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ขออนุญาตลำดับดังนี้ 1.การยืมดังกล่าว ยืมระหว่างส่วนราชการ คือกระทรวงพาณิชย์ยืมกระทรวงการคลัง ตามมติครม. ในการของบกลางเพื่อเป็นเงินทดรองราชการและได้รับการเห็นชอบ จากกกต. ย้ำว่าเห็นชอบ ไม่ใช่อนุมัติ ดังนั้น ผู้อนุมัติคือครม. ผู้ยืมคือ กระทรวงพาณิชย์
นายสมชัยระบุว่า 2.การลงนามยืม จึงเป็นลงนามโดยส่วนราชการ คาดว่าจะเป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศซึ่งมีหน้าที่ส่งเงินคืนคลังให้ครบ 20,000 ล้านบาท ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้ 3.หากอธิบดีไม่สามารถส่งเงินคืนคลังตามกำหนด คงต้องชี้แจง ทวงถามจากกระทรวงการคลังและดำเนินการตามขั้นตอนของราชการทั้งทางวินัยและทาง แพ่ง และ 4.ครม.ในฐานะผู้อนุมัติ น่าจะมีความผิดในฐานะตัดสินใจก่อให้เกิดผลเสียต่อรัฐ ซึ่งต้องไปฟ้องที่ป.ป.ช. ส่วนกกต.ในฐานะผู้ให้ความเห็นชอบ คงถูกต่อว่าว่าเชื่อคนง่าย
ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.การคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
ระบุถึงกรณีที่นายสมชัย บอกข้าราชการเกี่ยวกับการใช้งบกลาง 2 หมื่นล้านบาท ที่กกต.อนุมัติ โดยเตือนว่าจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าไม่ได้เงินมาคืนงบกลาง ภายใน 31 พ.ค. นี้ ว่า เพิ่งเข้าใจความเสี่ยงต่อข้าราช การ ทั้งกระทรวงการคลัง พาณิชย์และสำนักงบประมาณ หากไม่ได้เงินคืนจะผิดเงื่อนไขที่ กกต. อนุมัติ ดังนั้น ข้าราชการจึงต้องคำนวณให้ดี หากไม่แน่ใจก็ควรแจ้งให้รัฐมนตรีรับทราบไว้ก่อน เพื่อรัฐมนตรีจะได้รับผิดชอบ แต่ยังมีปัญหามาตรา 181 (3) อีกด้วย หากได้เงินคืนไม่ครบ ก่อนหน้าที่รัฐบาลนี้พ้นหน้าที่ไป จะมีผลผูกพันรัฐบาลหน้าอัตโนมัติ คือจะผิด มาตรา 181 (3) ทันที
"นอก จากนี้ความผิดอาจจะลามไปถึงธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ด้วย ดังนั้น ถ้าจะปลอดภัย ควรจะรอให้ศาลชี้ขาดเรื่อง 30 วันหลังการเลือกตั้งก่อน หากรัฐบาลจะเร่งรัดให้ กกต. จัดเลือกตั้งให้เสร็จเร็ว ก็ต้องได้เงินคืนเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นสำหรับข้าราชการที่เสนอใช้งบกลาง 2 หมื่นล้านบาท ตอนนี้ต้องถือว่างานเข้าเสียแล้ว ต้องระมัดระวังเพิ่มอีกมากนะครับ ความเสี่ยงข้างต้น ผมเองก่อนหน้านี้มองไม่เห็นเลยครับ" นายธีระชัยระบุ
รายงาน ข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบกลาง 2 หมื่นล้านบาท เพื่อไปจ่ายค่าข้าวให้ชาวนายังมีปัญหา
เพราะสำนักงบประมาณเสนอให้เบิกจ่ายตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ปี 2546 โดยความหมายของภัยพิบัติ ต้องเป็นสาธารณภัย อาทิ อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง ภาวะฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง ฟ้าผ่า ภัยจากลูกเห็บ ภัยอันเกิดจากไฟป่า ภัยที่เกิดจากโรคหรือการระบาดของแมลงหรือศัตรูพืชทุกชนิด อากาศหนาวจัดผิดปกติ และภัยสงคราม เป็นต้น ซึ่งปัญหารัฐบาลค้างหนี้จำนำข้าวไม่ได้อยู่ในนิยามของภัยพิบัติ
รายงาน ข่าวระบุด้วยว่า การเบิกเงินทดรองราชการฯ มีข้อกำหนดให้ส่วนราชการเบิกงบกลางเพื่อไปใช้กรณีฉุกเฉินวงเงิน 50-100 ล้านบาท
และเมื่อได้ตั้งเงินงบประมาณแล้วต้องนำมาคืน แต่การยืมเงินงบกลางไปใช้หนี้จำนำข้าวสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท และยังไม่ตั้งงบประมาณมาคืน แต่เป็นการใช้เงินจากการระบายข้าวมาคืน จึงไม่มีความแน่นอนจะทำได้หรือไม่ ขณะเดียวกันผู้บริหารกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เริ่มกังวลเมื่อกกต.ออกมาเตือนผู้ลงนามยืมเงินทดรองจ่าย 2 หมื่นล้านบาท จะต้องรับผิดทางกฎหมาย หากกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถระบายข้าวนำเงินมาคืน 2 หมื่นล้านบาท มาใช้คืนได้ทันตามเส้นตายที่ กกต. กำหนด คือภายในวันที่ 31 พ.ค.
รายงาน ข่าวระบุอีกว่า ทั้งนี้กรมการค้าระหว่างประเทศยังไม่ได้ประสานมายังกรมบัญชีกลางเพื่อยืม เงินงบกลางออกมาจ่ายหนี้ชาวนา
ซึ่งจะต้องพิจารณากันให้รอบคอบ ว่ากระทรวงพาณิชย์จะหาเงินมาใช้หนี้ได้หรือไม่ โดยการเบิกเงินทดรองราชการฯ ครั้งนี้ จะต้องให้นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้ลงนามอนุมัติการใช้เงิน ซึ่งนายรังสรรค์เดินทางไปต่างประเทศ จะเดินทางกลับมาสัปดาห์หน้า ซึ่งกรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างหาช่องว่างของระเบียบการเบิกเงินทดรองราชการฯ ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนแผนการจัดหาเงินเพื่อจ่ายจำนำข้าวที่ยังค้างอยู่ 1.12 แสนล้านบาทนั้น เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ประชุมคณะกรรมการธ.ก.ส.
ที่มีนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลังเป็นประธาน ที่ประชุมธ.ก.ส.ยังหารือกันถึงการชดเชยค่าเสียโอกาสในรูปแบบดอกเบี้ย ให้แก่ชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินตามใบประทวน แต่ฝ่ายการเมืองยังไม่เห็นชอบ โดยขอเวลาในการพิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบอีกครั้ง ก่อนที่จะเสนอไปยังรัฐบาล เพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือเร่งหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาโดยเร็ว