เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ
ไกล่เกลี่ยสหฟาร์มเบี้ยวค่าเลี้ยงไก่
เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างตัวแทนลูกหนี้ธนาคารกับบริษัท สหฟาร์ม จำกัด กรณีที่บริษัท สหฟาร์ม เกิดปัญหาภาวะหนี้สินและติดค้างการจ่ายค่าแรงเกษตรกร โดยวันนี้มีตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ประมาณ 10 รายเข้าร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯและเจ้าหน้าที่ธนาคาร ขณะที่บริษัท สหฟาร์มฯไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมหารือ
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายหลายรายในหลายพื้นที่เข้ามาร้องเรียนขอให้กรมคุ้มครองสิทธิฯช่วยหาทางออก เฉพาะเกษตรกรเลี้ยงไก่ในจ.ชัยภูมิ
พบมีผู้เสียหาย 93 ราย รวมเป็นเงินกว่า 75 ล้านบาท ขณะนี้ได้จัดเตรียมทนายให้คำปรึกษาข้อกฎหมาย เบื้องต้นเข้าข่ายเป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง โดยกรมคุ้มครองสิทธิฯจะเข้าไปช่วยเหลือได้เฉพาะการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อตกลงที่รับได้ร่วมกัน ซึ่งจะมีการประสานข้อมูลไปยังธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ของบริษัท สหฟาร์มฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบสถานะทางการเงินของบริษัท สหฟาร์มฯ โดยจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ก็ต้องปล่อยให้มีการดำเนินคดีตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ในภาพระดับประเทศขณะนี้กรมคุ้มครองสิทธิฯและคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กำลังเดินหน้าผลักดันพ.ร.บ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิแก่เกษตรกรในระบบเกษตรพันธะสัญญา เพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรที่ทำสัญญาผูกขาดการขายให้กับนายทุนกลุ่มใหญ่
นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมการระงับข้อพิพาท กล่าวว่า
หลังจากนี้จะทำแผนการแก้ไขอย่างเป็นขั้นตอนก่อนเสนอให้บริษัท สหฟาร์มฯรับทราบว่าจะยอมปฏิบัติตามแผนหรือไม่ โดยในวันที่ 25 ก.ย.นี้ได้นัดบริษัท สหฟาร์มฯเข้ามาไกล่เกลี่ยกับเกษตรกรและธนาคารเพื่อหาข้อยุติอีกครั้ง
ด้านนายวิรัตน์ กัล ยาศิริ ในฐานะคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า
เรื่องดังกล่าวรัฐบาลต้องเข้ามามีส่วนรับผิดชอบเพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนจำนวนมาก พร้อมเสนอให้มีการหาแหล่งเงินทุนเพื่อให้เอกชนเข้าไปกู้เงินมาบริหารจัดการปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนเกษตรกรก็ควรให้ชะลอการชำระหนี้เอาไว้ก่อน