เศร้า นศ.มะกันเสียชีวิตไม่กี่วัน หลังโสมแดงปล่อยตัวในอาการโคม่า

เศร้า นศ.มะกันเสียชีวิตไม่กี่วัน หลังโสมแดงปล่อยตัวในอาการโคม่า


นักศึกษาชาวอเมริกันซึ่งถูกจับในเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 2016 และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวในอาการโคม่า เพราะบาดเจ็บทางสมองเมื่อสัปดาห์ก่อน เสียชีวิตแล้ว...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายออตโต วอร์มเบียร์ นักศึกษาชาวอเมริกันวัย 22 ปี ผู้ถูกจับกุมตัวในเกาหลีเหนือนานเกือบ 18 เดือน และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวในสภาพโคม่า เนื่องจากสมองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เมื่อสัปดาห์ก่อน เสียชีวิตแล้วในวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. ที่บ้านของเขาในเมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ โดยมีครอบครัวและญาติรายล้อม

ทั้งนี้ นายวอร์มเบียร์เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือก่อนถูกจับกุมตัว และถูกศาลตัดสินลงโทษให้ใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 15 ปี เมื่อเดือน มี.ค. 2016 ในข้อหาขโมยโปสเตอร์โฆษกชวนเชื่อจากโรงแรมแห่งหนึ่งในเกาหลีเหนือ ก่อนที่จะมีข่าวออกมาว่า นายวอร์มเบียป่วยหนักอาการโคม่า ทางการสหรัฐฯ จึงส่งทูตระดับสูงเข้าเจรจากับเกาหลีเหนือ นำไปสู่การปล่อยตัวนายวอร์มเบียเมื่อวันอังคารที่ 13 มิ.ย.

ในเบื้องต้นเกาหลีเหนืออ้างว่า นายวอร์มเบียร์เข้าสู่อาการโคม่าไม่นานหลังถูกศาลตัดสินโทษ อ้างว่าเขาติดเชื้อโบทูลิซึม และกินยานอนหลับ ขณะที่ผลการตรวจของแพทย์สหรัฐฯ ไม่พบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทางสมอง แต่ไม่พบหลักฐานการติดเชื้อโบทูลิซึมด้วย แพทย์พบการสูญเสียเนื้อเยื่อเป็นบริเวณกว้างในสมองของเขา แต่ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย

หลังจากเดินทางกลับมา แพทย์ทำการรักษาให้นายวอร์มเบียร์ฟื้นจากอาการโคม่าแล้ว แต่อยู่ในภาวะตื่นตัวแต่ไร้การตอบสนอง หรือภาวะ ‘ผัก' สามารถลืมตา กะพริบตาได้ แต่ไม่มีสัญญาณการเข้าใจในภาวะหรือสิ่งรอบข้าง ก่อนจะเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งครอบครัวของเขาระบุว่า ออตโตมีท่าทีทุกข์ทรมานตอนที่กลับมา แต่ตอนนี้เขาจากไปอย่างสงบแล้ว

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายวอร์มเบียร์ พร้อมประณามรัฐบาลเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง "ช่างเป็นรัฐบาลที่ป่าเถื่อน" นายทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาว "เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น แต่อย่างน้อยเราก็สามารถนำตัวเขากลับมาหาครอบครัวได้สำเร็จ"

"ชะตาของออตโตทำให้ความมุ่งมั่นของรัฐบาลของผม ในการป้องกันโศกนาฏกรรมเช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ด้วยเงื้อมมือของรัฐบาลซึ่งไม่เคารพในกฎหมาย หรือหลักการพื้นฐานของมนุษย์ ลึกล้ำขึ้นอีก" นายทรัมป์ระบุ.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์