เด็กชายอินเดียวัย 7 ขวบป่วยเนื้องอก ลุกลามจนใบหน้าเละ-ตาบอด

เด็กชายอินเดียวัย 7 ขวบป่วยเนื้องอก ลุกลามจนใบหน้าเละ-ตาบอด


เว็บไซต์เดลีสตาร์ของอังกฤษ รายงานข่าวที่น่าตกตะลึงของเด็กชายคนหนึ่งจากประเทศอินเดีย ที่ต้องทุกข์ทรมานจากเนื้องอกที่ลุกลามใหญ่โตบนใบหน้าของเขาจนตาบอดไปข้างหนึ่งแล้ว 

เรื่องเกิดขึ้นที่เมืองชัยปุระประเทศอินเดีย ด.ช.อทิตยา มิชรา วัย 7 ขวบ ต้องได้รับความเจ็บปวดเป็นอย่างมากจากเนื้องอกที่ลุกลามเป็นสีดำบริเวณใบหน้าของเขาซึ่งถือว่าเป็นอาการที่หาได้ยากยิ่ง

อทิตยาเมื่อแรกเกิดมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดีแต่หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเขาก็สังเกตเห็นว่าดวงตาข้างขวาของเขามีขนาดใหญ่กว่าข้างซ้าย จนกระทั่งเกิดเนื้องอกที่ลุกลามไปทั่วหน้าของเขา

นอกจากความเจ็บปวดจากก้อนเนื้องอกแล้วเขายังได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจจากการที่เพื่อนๆของเขาต่างพากันแกล้งและเรียกเขาว่าหน้าผี หรือ ลิง ส่วนเด็กๆทั่วไปก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเล่นกับเด็กชายอทิตยาเพราะหวาดกลัวใบหน้าของเขา 

เด็กชายอินเดียวัย 7 ขวบป่วยเนื้องอก ลุกลามจนใบหน้าเละ-ตาบอด


นางนีทูมิชราแม่ของอทิตยา กล่าวว่า มันยากอย่างยิ่งที่เห็นต้องเห็นลูกของตัวเองถูกกีดกันจากคนอื่นๆเพราะเขามีเนื้องอกที่ผิดปกติ อทิตยารู้สึกเศร้ามาก เมื่อเขาออกไปเล่นกับเด็กคนอื่น แล้วเด็กคนอื่นก็หวาดกลัวเขา สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือ จะทำอย่างไรถ้าเนื้องอกยังขยายตัวต่อไปหรือถ้ามันระเบิดออกมาล่ะ

"เราต้องทนเห็นอาการของลูกแย่ลงตาของเขาไม่สมส่วนและเปลือกตาของเขาก็ค่อยๆคกลงมาคลุมตาของเขา ฉันกลัวว่าเขาจะสูญเสียการมองเห็นไปอีก ตอนนี้เขาเสียตาขวาไปแล้ว ช่วงนี้เขาปวดหัวบ่อยมาก เขามักจะบ่นเสมอว่าปวดตรงหน้าผากข้างขวา อาการของเขาแย่ลง บางครั้งเขาไม่กินอาหารและน้ำ เอาแต่พูดถึงแต่ความเจ็บปวดและร้องไห้อย่างเดียว"

เด็กชายอินเดียวัย 7 ขวบป่วยเนื้องอก ลุกลามจนใบหน้าเละ-ตาบอด


อาทิตยาไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนพี่น้องของเขาเพราะมีคนบอกว่าเขาจะทำให้เด็กๆคนอื่นกลัว 

นายนิราชพ่อของอทิตยา ซึ่งทำงานในโกดังเก็บของ พยายามหาทางช่วยเหลือลูกชายของเขา แต่เขาทำงานได้เงินเดือนเพียงน้อยนิด และเป็นการยากพออยู่แล้วที่จะต้องเลี้ยงดูครอบครัวของเขาทั้ง 6 คน 

"หมอบอกให้เราพาอาทิตยาไปทำซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอ เราได้ผลสแกนมาแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ หมอบอกว่าเขาไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ เพราะโรคนี้ไม่มีทางรักษา"นายนิราชกล่าว และว่า "เรารู้สึกเสียใจมาก เรากลัวว่าเราจะไม่สามารถรักษาลูกได้ และเขาจะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไร"

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พวกเขาสามารถพาอาทิตยาไปรักษายังโรงพยาบาลของวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์เบนนารัส ฮินดู ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆและญาติๆ ที่ช่วยกับรวบรวมเงินให้ อาทิตยาไปผ่าตัดครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว กว่า 1,000 ปอนด์ (49,000 บาท) แต่การรักษาจะประกอบด้วยการผ่าตัดรวมทั้งหมด 6 ครั้ง ซึ่งจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายรวมกว่า 5,000 ปอนด์ (247,000 บาท) โดยในขณะนี้ทางครอบครัวของอาทิตยากำลังเปิดรับความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อใช้ในการรักษาดังกล่าว

นพ.จีเอสคาลรา ที่เมืองชัยปุระ ซึ่งทำการตรวจรักษาอาทิตยา เชื่อว่าโรคที่อาทิตยาเป็นอยู่นี้ชื่อว่า Plexiform Neurofibromatosis ซึ่งจะต้องทำการรักษาโดยการผ่าตัดหลายครั้ง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์