สาวสวยหอบร่างเกือบเปลือย โชกเลือด โผล่แจ้งความถูกคนดำรุมข่มขืน แต่กลายเป็นเธอเองที่โดนจับ?

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เดลี่เมล์รายงานว่าสาววัยรุ่นจากเท็กซัส สหรัฐถูกศาลตัดสินลงโทษ จากการให้การเท็จว่าถูกคนดำสามคนรุมข่มขืน หญิงสาวไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมถึงต้องทำให้ความเท็จ เพียงแค่เผยว่าตนทะเลาะกับคู่หมั้นก่อนกุเรื่องทั้งหมดขึ้น

น.ส.บรีน่า เรเชล ฮาร์มอนวัย 19 ปี สาวจากรัฐเท็กซัส ถูกศาลตัดสินด้วยความผิดหลังจากให้การเท็จกับตำรวจว่าถูกชายผิวดำสามคนที่ใส่หน้ากากเล่นสกีรุมข่มขืน

เรื่องนี้สืบสาวมาจากที่คู่หมั้นหนุ่มไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่าน.ส.ฮาร์มอนหายตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม 2560 แต่จู่ๆ ก็โผล่ออกมาด้วยความมึนงงใกล้กับโบสถ์แห่งหนึ่งในสภาพเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด และนุ่งเพียงแค่เสื้อเชิ้ต ยกทรงและกางเกงใน ในวันที่ 8 มีนาคม 2560

พร้อมกันนี้ยังอธิบายวินาทีที่ถูกข่มขืนให้กับตำรวจฟังด้วยว่าถูกชายผิวดำคนหนึ่งพาตัวเข้าไปในป่าใกล้กับโบสถ์ที่ปรากฏตัว จากนั้นทั้งสามก็ผลัดกันข่มขืนโดยที่มีคนหนึ่งคอยจับตัวเธอไว้ อีกทั้งยังมีแผลจากการถูกมีดกรีดอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อนายเจย์ เบิร์ช ผู้กำกับการตำรวจเมืองเดนิสันระบุว่าทางเจ้าหน้าเริ่มสงสัยหลังจากมีส่งตัวสาวคนนี้ไปตรวจยังโรงพยาบาล แพทย์ไม่พบร่องรอยการถูกทารุณกรรมทางเพศแต่อย่างใด ส่วนเจ้าหน้าที่สืบสวนไม่พบหลักฐานใดๆในที่เกิดเหตุ เรื่องทั้งหมดถูกสร้างขึ้นและแผลที่เกิดที่ตัวของสาวคนนี้ก็มาจากฝีมือของตัวเอง

ทั้งนี้สาวคนนี้เป็นผู้ยอมรับเองว่ากุเรื่องทั้งหมดขึ้น จากคำพูดของนายบ็อบ จาร์วิส ทนายความของสาวคนนี้ที่ระบุว่าลูกความของตนรู้สึกสำนึกผิด จึงตัดสินใจยอมรับผิด

น.ส.ฮาร์มอนยังบอกกับเจ้าหน้าที่ด้วยว่าก่อนการสร้างเรื่องได้ทะเลาะกับคู่หมั้นและไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะไปต่อได้ จากนั้นจึงเริ่มเอามีดกรีดตัวเอง และกรีดเสื้อผ้าพร้อมกับกุเรื่องดังกล่าวขึ้น

ตำรวจระบุว่าน.ส.ฮาร์มอนดูถูกสร้างความเสื่อมเสียให้กับสังคมชาวแอฟริกัน-อเมริกันหลังกล่าวหาว่าคนร้ายเป็นชายผิวดำอีกด้วย