รายงานจากการสืบสวน ซึ่งถูกเปิดเผยโดยสำนักข่าว BBC เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กระบวนการค้าอวัยวะผิดกฏหมายได้เริ่มต้นขึ้นในเลบานอน เมื่อ 2 - 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นบรรดาผู้อพยพชาวซีเรีย ที่มีความจำเป็นต้องขายอวัยวะของพวกเขาเพื่อความอยู่รอดของตนเอง และครอบครัว
Alex Forsyth ผู้สื่อข่าวจาก BBC ได้สัมภาษณ์ Abu Jaafar ผู้ทำหน้าที่เป็นนายหน้าให้แก่การขายอวัยวะผิดกฏหมายเหล่านี้ "ผมใช้ประโยชน์จากผู้คน นั่นคืองานของผม" เขากล่าว แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ตนทำนั้นผิดกฏหมายก็ตาม แต่มองในอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นการช่วยผู้อพยพเหล่านั้น
นับตั้งแต่สงครามซีเรียระอุขึ้นในปี 2011 ประชาชนจำนวนมากหลบหนีออกจากบ้านเกิด และมีสถานะกลายเป็นผู้อพยพในประเทศต่างๆ แค่ในเลบานอนที่เดียว มีผู้อพยพชาวซีเรียอย่างน้อย 1.5 ล้านคน พวกเขาไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ดังนั้นความจำเป็นในการอยู่รอดจึงบีบบังคับให้พวกเขาทำได้ แม้กระทั่งการขายอวัยวะของตัวเองAbu Jaafar ทำหน้าที่เป็นคนกลาง และพาผู้อพยพที่ต้องการเงินไปยังสถานที่ผ่าตัด ตลอดทางพวกเขาจะถูกผูกผ้าปิดตาเอาไว้ทั้งในขาไป และขากลับ
ผู้อพยพส่วนใหญ่เลือกที่จะขายไตของตัวเองข้างหนึ่ง แต่ก็มีบ้างเช่นกันที่บางคนเลือกขายดวงตาของตนเอง Jaafar เล่าว่าตัวเขาให้ความดูแลผู้อพยพอย่างดี ในช่วงพักฟื้น 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด แต่หลังจากนั้นแล้วก็ทางใครทางมัน
"ในช่วงเวลาที่เราได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เราก็ไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาต่อไป" เขากล่าว "ผมไม่แคร์ว่าใครจะตาย เพราะยังไงผมก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ และนั่นไม่ใช่ปัญหาของผมว่าพวกเขาจะเกิดอะไรขึ้นตามมา ตราบใดที่พวกเขาได้เงินจากการขายอวัยวะแล้ว"
Jaafar ปฏิเสธที่จะบอกว่าเขามีรายได้เท่าไหร่ในการทำงานแต่ละครั้ง และระบุว่าตัวเขาไม่ทราบว่าอวัยวะที่ถูกซื้อนั้น มีจุดหมายปลายทางที่ใด แต่เขาเชื่อว่ามันถูกนำส่งออกไปยังต่างประเทศ
รายงานจากหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ขณะนี้จำนวนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมีมากถึง 5 ล้านคนแล้ว ตลอด 6 ปีของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความเป็นจริงเลวร้าย ที่ควรได้รับการแก้ไขมากกว่านี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
