สลดซ้ำช้ำชะตาผู้ลี้ภัย! พ่อลูกถูกแก๊งลักตัว-รีดไถ่ ก่อน “ปาดคอ” ปล่อยให้นอนตาย

วันที่ 11 ก.ค. ซีเอ็นเอ็น เผยแพร่ชะตาชีวิตสุดรันทดของสองพ่อลูก ผู้ลี้ภัย ชาว กัวเตมาลา ที่อพยพหนีความอดอยากจากประเทศบ้านเกิด โดยมีความหวังว่าจะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าใน สหรัฐอเมริกา

แต่กลับถูกแก๊งค้ามนุษย์ที่รับเงินค่าจ้างพาข้ามแดนหลอกลวงปล่อยทิ้งไว้ในเม็กซิโก ทั้งยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัดตกเป็นเหยื่อกลุ่มอาชญากรรมลักพาตัว จนนำไปสู่ความตายและความสูญเสียแสนรันทด

รายงานระบุว่า นายรูดี้ วัย 37 ปี พา ด.ช.คริสเตียน ลูกชายวัย 10 ขวบ ออกจากกัวเตมาลาเมื่อ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยว่าจ้างให้คนๆ หนึ่งพาตนและลูกชายเดินทางข้ามประเทศไปยังสหรัฐ แต่กลับถูกทิ้งหลังเข้าสู่เม็กซิโก

นายพาโบล โอเฮกา รัฐมนตรีกิจการภายในรัฐโมเรลอส ทางตอนกลางเฉียงใต้ของเม็กซิโก ระบุว่านายรูดี้และด.ช.คริสเตียน ถูกสมาชิกแก๊งลอสเซตาส แก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ จับตัวไป และติดต่อญาติของสองพ่อลูกที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 366,000 บาท

แต่ญาติมีเงินไม่มากพอ จึงต่อรองและตกลงจ่ายแก๊งลอสเซตาสเป็นเงินกว่า 245,000 บาท อย่างไรก็ตาม ญาติไม่ได้รับข่าวของนายรูดี้และลูกชายอีกเลย

กระทั่งวันที่ 6 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบด.ช.คริสเตียนนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ ทั้งสองคนมีร่องรอยถูกมีดปาดคอเป็นแผลลึกกว่า 3 นิ้ว โดยนายรูดีไม่สามารถทนผิดบาดแผลได้และเสียชีวิตทั้งที่ยังจับมือลูกชายซึ่งนอนอยู่ในอ้อมกอด

ส่วนด.ช.คริสเตียนยังมีลมหายใจ แม้จะรวยรินจนเจ้าหน้าที่คิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว แต่โชคยังเข้าข้างนำตัวเด็กชายส่งโรงพยาบาลในเมืองกัวอุตลาได้ทันเวลา ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดจนอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศกัวเตมาลาแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัว และสัญญาว่าจะจ่ายเงินสำหรับนำศพนายรูดีกลับมาประกอบพิธี

ขณะเดียวกันด.ช.คริสเตียน รวมทั้งอาและลูกชายซึ่งลี้ภัยมาพร้อมกัน แต่แยกเป็น 2 กลุ่มและอยู่ภายใต้การดูแลของทางการเม็กซิโก มีทางเลือก 2 ทาง คือขอยื่นลี้ภัยในเม็กซิโก หรือกลับไปกัวเตมาลา