มหาเศรษฐีนีอันดับ 1 ของโลกเสียชีวิต...

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ว่า นางเบตตองกูร์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเครื่องสำอางขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลอรีอัล โดยเธอมีทรัพย์สินส่วนตัวจากการประเมินของนิตยสารฟอร์บส์ เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 33,000 ล้านยูโร (1,305,350 ล้านบาท) นายฌ็อง-ปอล อาญอง ซีอีโอบริษัทลอรีอัล กล่าวในแถลงการณ์สั้นๆ ใจความว่า "พวกเราทุกคนต่างชื่นชมเป็นอย่างสูงต่อคุณลิเลียน เบตตองกูร์ ผู้สร้างสรรค์ความสำเร็จและพัฒนาการของลอรีอัล"
  

 เบตตองกูร์แทบไม่เคยปรากฎตัวต่อสาธารณชน หลังลาออกจากคณะกรรมการบริหารของลอรีอัลในปี พ.ศ. 2555 แต่ชื่อของเธอยังปรากฎเป็นข่าวใหญ่ของสื่ออยู่เสมอ เมื่อกลุ่มคนใกล้ชิดถูกตั้งข้อหาแสวงหาผลประโยชน์จากสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ลงของเธอ และเธอถูกประกาศให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถที่จะบริหารกิจการของตนเองในปี 2554 หลังจากรายงานของแพทย์แสดงให้เห็นว่า เธอป่วยด้วยโรค "สมองเสื่อมผสม"  และโรคอัลไซเมอร์ "ค่อนข้างรุนแรง" นับตั้งแต่ปี 2549

    คดีความซับซ้อนเกี่ยวพันกับความบาดหมางรุนแรงกับ ฟรองซัวส์ เบตตองกูร์-เมเยอร์ ลูกสาวคนเดียวของเธอ และกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ซื่อสัตย์ บางคดีถึงขั้นลากอดีตประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
  

 ในปี 2551 เบตตองกูร์-เมเยอร์ ลูกสาว ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทลอรีอัล ยื่นฟ้องแม่เป็นจำเลยต่อศาล เกี่ยวกับเงินกองทุนที่แม่ยกให้ช่างภาพชื่อดังและคนสนิทรายหนึ่ง และในตอนนั้นลิเลียน เบตตองกูร์ ยืนยันว่าสุขภาพของเธอสมบูรณ์แข็งแรง
    

คนสนิท 8 คนของเบตตองกูร์ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานขูดรีดเธอในเดือน พ.ค. 2558 ในจำนวนนี้รวมถึง นายฟรองซัวส์-มารี บานิเยร์ ช่างภาพ ซึ่งถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 4 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาในชั้นอุทธรณ์ และนายปาตริซ เดอ แมสเตร ผู้บริหารจัดการทรัพย์สินของเบตตองกูร์ ถูกศาลตัดสินจำคุก 30 เดือน แต่ 12 เดือนในจำนวนดังกล่าวให้รอลงอาญา และปรับ 250,000 ยูโร (9.8 ล้านบาท)

    ลอรีอัลเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 90,000 คน ใน 140 ประเทศทั่วโลก และมียอดขาย 25,840 ล้านยูโร (1,022,130 ล้านบาท) ในปี พ.ศ. 2559.

>>>>>>>>>>>
CR:::dailynews.co.th