ผู้ลี้ภัยจนตรอก!!! เปิดใจนายหน้าค้าอวัยวะจากผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ธุรกิจกำลังคึกคัก!!

ผู้ลี้ภัยจนตรอก!!! เปิดใจนายหน้าค้าอวัยวะจากผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ธุรกิจกำลังคึกคัก!!

"ลูกค้าส่วนใหญ่อยากได้ไต แต่เคยมีอยู่ออเดอร์นึงบอกว่าอยากได้ตา ซึ่งผมก็หาให้จนได้" เปิดใจนายหน้าค้าอวัยวะในเลบานอนที่ยอมรับว่าธุรกิจนี้กำลังคึกคัก เพราะผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่จนตรอกไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขายอวัยวะตัวเองเพื่อประทังชีวิต


สงครามที่ยืดเยื้อในซีเรียบีบให้ผู้คนจำนวนมากต้องหอบลูกจูงหลานละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดหนีตายไปต่างแดนที่ที่ไร้ซึ่งญาติมิตร ทรัพย์สินเงินทองที่พอมีติดตัวมานับวันก็ร่อยหรอลง ส่วนการหางานทำในดินแดนต่างถิ่นนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้ ท่ามกลางความรำเค็ญนี้เอง ธุรกิจการซื้อขายอวัยวะจึงผุดขึ้นและนับวันดูจะยิ่งเฟื่องฟูเพราะแทบจะเป็นหนทางเดียวที่ผู้ลี้ภัยสามารถหาเงินมาประทังชีวิตตัวเองและครอบครัวได้

อาบู จาฟาร์ เป็นหนึ่งในนายหน้าค้าอวัยวะในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เขาเคยทำงานเป็นรปภ.ที่ผับแห่งหนึ่งก่อนจะผันตัวมาเป็นนายหน้า งานของจาฟาร์คือหาคนที่จนตรอกหมดสิ้นหนทางในชีวิต ก่อนจะเสนอเงินก้อนโตเพื่อแลกกับอวัยวะของคนเหล่านั้น แน่นอนว่าที่ผ่านมามีความต้องการอวัยวะสูงมาก แต่การหาคนที่ยอมสละอวัยวะของตัวเองเพื่อแลกกับเงินไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ ทว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ งานของจาฟาร์คึกคักขึ้นมากเพราะมีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจำนวนมากหลั่งไหลไปที่เลบานอน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน

"ผมยอมรับว่าหาผลประโยชน์จากพวกเขา แต่พวกเขาก็ได้ประโยชน์เหมือนกันนะครับ" จาฟาร์พูดถึงสิ่งที่ตัวเองทำอยู่พร้อมกับบอกว่าถ้าอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดในซีเรีย พวกเขาอาจจะตายวันตายพรุ่งก็ได้ การยอมเสียอวัยวะบางส่วนจึงเทียบไม่ได้เลยกับความโหดร้ายที่เผชิญมา

จาฟาร์เล่าว่าในช่วง 3 ปีมานี้ เขาเป็นนายหน้าขายอวัยวะจากผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมาแล้วประมาณ 30 คน "ลูกค้าส่วนใหญ่อยากได้ไต แต่เคยมีอยู่ออเดอร์นึงบอกว่าอยากได้ตา ซึ่งผมก็หาให้จนได้" จาฟาร์เล่าด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน "ผมถ่ายภาพดวงตาของคนที่พร้อมขายแล้วส่งผ่าน "แก๊ง" ต่อไปให้ลูกค้าดูเพื่อยืนยันความต้องการ"

ตรอกซอกซอยแคบ ๆ ที่จาฟาร์มักแวะเวียนไปแออัดไปด้วยผู้อพยพซึ่งมีทั้งชาวปาเลสไตน์ที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนสถานะผู้ลี้ภัยจากรัฐบาลเลบานอน รวมถึงชาวซีเรียที่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามกฎหมายเลบานอน คนเหล่านี้ไม่สามารถทำงานได้ พวกเขาจึงต้องทำงานผิดกฎหมาย ขายบริการทางเพศ แต่การขายอวัยวะเป็นทางเดียวที่จะได้เงินก้อนในเวลาอันน้อยนิด

จาฟาร์เล่าถึงขั้นตอนว่า "พอหาคนที่พร้อมขายอวัยวะตามออเดอร์ได้ ผมก็จะขับรถพาไปบ้านเช่าที่ถูกดัดแปลงเป็นคลินิกชั่วคราวตามวันเวลาที่นัดแนะไว้ พอไปถึงก็จะมีการตรวจเลือดแล้วก็ผ่าตัด ผ่าตัดเสร็จก็พากลับ ผมจะดูแลให้ประมาณอาทิตย์นึงจนกว่าจะตัดไหม หลังจากนั้นก็ตัวใครตัวมัน"

คนล่าสุดที่จาฟาร์พาไปเป็นเด็กชายอายุ 17 ปีที่หนีจากซีเรียหลังพ่อกับพี่ชายเสียชีวิต เขาอยู่ที่เลบานอนมา 3 ปีแล้วแต่ไม่มีงานทำเป็นชิ้นเป็นอันแถมยังมีหนี้สินเพราะต้องหาเงินเลี้ยงดูแม่กับน้องสาวอีก 5 คน เขาตกลงขายไตข้างขวาเพื่อแลกกับเงิน 8,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 270,000 บาท)

จาฟาร์ไม่เปิดเผยว่าเขาได้เงินจากการเป็นนายหน้าเท่าไหร่ บอกเพียงว่าน่าจะมีนายหน้าแบบเขาตามที่ต่าง ๆ ในเลบานอนอีกอย่างน้อย 7 คน "หลังจากที่คนซีเรียลี้ภัยเข้ามาในเลบานอน ธุรกิจนี้ก็บูมเอาบูมเอา"

"ผมรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่มันผิดกฎหมาย แต่ถ้ามองอีกมุมผมกำลังช่วยเหลือคนที่กำลังจนตรอก เงินจะช่วยให้พวกเขากับครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นหรืออาจจะเดินทางไปประเทศอื่นก็ได้ ที่สำคัญ ผมไม่เคยบีบบังคับใครให้ขายอวัยวะ ผมเพียงแต่อำนวยความสะดวกให้ ก็เท่านั้นเองครับ" จาฟาร์กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

ที่มา : BBC Alaraby, Workpoint

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์