วิกฤตศก.ทำพิษ ประชากรสเปนลดฮวบกว่า 200,000 คน

ประชากรสเปนมีจำนวนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี  ขณะที่ผู้อพยพเดินทางออกจากสเปนมากขึ้น ท่ามวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่

สำนักงานสถิติแห่งชาติสเปน (เอ็นเอสไอ) เปิดเผยว่า จำนวนประชากรลดลงกว่า 206,000 คน หลือ 47.1 ล้านคน ซึ่งจำนวนที่ลดลงทั้งหมดล้วนแต่เป็นคนต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อพยพจากเอกวาดอร์และโคลอมเบีย ที่มีจำนวนลดลงมากที่สุด และไม่ได้นับรวมชาวสเปนที่ยังคงมีทะเบียนบ้านอยู่ในประเทศ ที่เดินทางออกไปทำงานในต่างประเทศแต่อย่างใด

ในช่วงระหว่างที่สเปนเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจสุดขีด ผู้อพยพที่พูดภาษาสเปน ทั้งจากเอกวาดอร์ โคลอมเบีย และโบลิเวีย ต่างหลั่งไหลเดินทางมาหางานทำในสเปนจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง โดยในช่วงระหว่างปี 2000-2010 จำนวนผู้อพยพเพิ่มจาก 924,000 คน เป็น 5.7 ล้านคน

เอ็นเอสไอเผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ประชากรสเปนมีจำนวนลดลง นับตั้งแต่มีการสำรวจจำนวนประชากรครั้งแรกเมื่อปี 1857 แม้ว่าคนสัญชาติสเปนเองจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 10,000 คนเมื่อปีที่แล้ว แต่เมื่อหักลบกับจำนวนชาวต่างชาติที่อพยพออกนอกประเทศราว 216,000 คน ยังถือว่าตัวเลขลดลงค่อนข้างมาก

สถิติตัวเลขดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า วิกฤตเศรษฐกิจของสเปน ยังส่งผลต่ออัตราการเติบโตของประชากรในช่วงทศวรรษก่อนที่จะเกิดวิกฤตขึ้นใน ปี 2008

นอกจากนั้น วิกฤตฟองสบู่อสังหาริมริมทรัพย์ และอัตราการว่างงานที่สูงถึงร้อยละ 26  ยิ่งทำให้สถานการณ์ประชากรของสเปนเลวร้ายลง ที่เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้อพยพจากอเมริกาใต้และยุโรปตะวันออกเดินทางออกนอก สเปน โดยเฉพาะชาวโรมาเนียและโมร็อกโก ที่เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด

ด้านนายอัลเบิร์ต เอสตีฟ จากศูนย์ศึกษาประชากรศาสตร์บร์เซโลนา เปิดเผยว่า แม้ปี 2000-2009 จะมีผู้อพยพเดินทางเข้าสเปนสูงมากเป็นประวัติการณ์ แต่ในพักหลังสเปนเริ่มได้รับความสนใจน้อยลงเพราะที่นี่ไม่มีงานให้ใครทำอีก