เมแกน-แฮร์รี : รวมประเด็นที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับทายาทองค์แรก

ทายาทพระองค์นี้จะลืมตาดูโลกเมื่อใด

ในช่วงแรกเราทราบเพียงว่า ทารกจะถือกำเนิดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ราวเดือน มี.ค.-มิ.ย.) ปี 2019

ในเวลาต่อมา ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ทรงเผยว่าพระองค์จะมีพระประสูติกาลช่วงประมาณปลายเดือน เม.ย. หรือต้นเดือน พ.ค.นี้

เป็นเรื่องน่าสนใจว่า เจ้าชายลูอีส์ และเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระโอรสและพระธิดาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ ซึ่งทรงเป็นลูกพี่ลูกน้องของทายาทดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ต่างประสูติในห้วงเวลาใกล้ ๆ กันนี้

โดยเจ้าชายลูอีส์ ประสูติเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ส่วนเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ประสูติเมื่อวันที่ 2 พ.ค.

เรายังไม่ทราบว่าทายาทของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จะเป็นชายหรือหญิง และถึงแม้ทั้งสองพระองค์ทรงทราบ ก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณชน

โดยในระหว่างที่ทั้งสองพระองค์ปฏิบัติพระกรณียกิจแรกของปี 2019 เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาทรงมีพระปฏิสันถารกับเยาวชนกลุ่มหนึ่งจากโรงเรียนประถมในเมืองเบอร์เคนเฮด ใกล้กับเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งทูลถามเกี่ยวกับเพศของทารกที่กำลังจะประสูติของทั้งสองพระองค์

ด.ญ.คิตตี วัย 9 ขวบ เผยกับผู้สื่อข่าวหลังเข้ารับเสด็จทั้งสองพระองค์ว่า "หนูถามเธอ (เมแกน) ว่าจะมีลูกสาวหรือลูกชาย แต่เธอตอบว่าไม่รู้"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนั้น ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ พระชันษา 37 ปี ทรงบอกประชาชนที่ไปรับเสด็จว่า เจ้าชายแฮร์รี พระสวามี จะทรงเป็น "พ่อที่ยอดเยี่ยม"

ส่วนบรรดาผู้ชื่นชอบการพนันขันต่อต่างเชื่อว่า ทายาทพระองค์นี้จะเป็นผู้หญิง โดยโฆษกของบริษัทธุรกิจรับพนัน วิลเลียม ฮิลล์ ในอังกฤษ ระบุว่า เด็กหญิง คือเพศที่คนส่วนใหญ่ กำลังพนันกัน"

เราคงจะไม่ได้เห็นภาพแบบนั้นในครั้งนี้ หนังสือพิมพ์อังกฤษหลายฉบับ ระบุว่า ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ทรงเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้นเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว

สำนักพระราชวังเคนซิงตัน ระบุว่า ทั้งสองพระองค์ทรงต้องการเก็บแผนการเกี่ยวกับการมีพระประสูติกาลทายาทพระองค์น้อยไว้เป็นการส่วนพระองค์

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงพิจารณาถึงเรื่องการมีพระประสูติกาลภายในพระตำนักที่ประทับ

หากเป็นเช่นนั้น พระองค์จะทรงดำเนินรอยตามสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ที่มีพระประสูติกาลพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง 4 พระองค์ภายในพระราชวังที่ประทับ

ในกรณีของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ก็จะทรงมีพระประสูติกาลที่ ฟร็อกมอร์ คอตเทจ (Frogmore Cottage) ในเขตพระตำหนักฟร็อกมอร์ ใกล้กับพระราชวังวินด์เซอร์ นอกกรุงลอนดอน ที่ทั้งสองพระองค์เพิ่งจะย้ายเข้าไปเมื่อต้นเดือน เม.ย.นี้ หลังจากมีการบูรณะครั้งใหญ่ ด้วยเงินกว่า 3 ล้านปอนด์ (ราว 123 ล้านบาท)

ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ประทับที่พระราชวังเคนซิงตันร่วมกับครอบครัวของเจ้าชายวิลเลียมและพระชายา

ที่ผ่านมา พระนามของราชนิกุลมักได้รับอิทธิพลจากสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่น

โดยชื่อที่ได้รับการคาดหมายมากที่สุดในขณะนี้เป็นชื่อดั้งเดิม เช่น เจมส์, อาร์เธอร์, ฟิลิป, อลิซ, วิคตอเรีย รวมทั้ง ไดอานา ซึ่งเป็นพระนามพระมารดาของเจ้าชายแฮร์รีนั่นเอง

ทายาทพระองค์นี้อาจไม่ต้องมีนามสกุล หากพระองค์ได้รับพระราชทานยศเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง

อีกทางเลือกหนึ่งคือ เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน พระชายา อาจเลือกนามสกุล "เมานต์แบตเทน-วินด์เซอร์" (Mountbatten-Windsor) ซึ่งมาจากนามสกุลของเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ และนามสกุลของ สมเด็จพระราชินีนาถฯ ที่ตั้งขึ้นหลังจากทั้งสองพระองค์อภิเษกสมรสกันในปี 1947

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าเจ้าชายแฮร์รีและพระชายา อาจทรงทำตามอย่างดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ด้วยการใช้พระยศ "ซัสเซกซ์" ที่สมเด็จพระราชินีนาถฯ พระราชทานให้เป็นนามสกุล

โดยพระโอรสและพระธิดาทุกพระองค์ของอย่างดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงใช้นามสกุล "เคมบริดจ์" ในสูติบัตร

จะมียศเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายหรือไม่ ?

ทายาทของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จะไม่มียศเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายโดยทันที เว้นเสียแต่สมเด็จพระราชินีนาถฯ จะทรงโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระยศให้ก่อนการประสูติ

แต่ในปี 2012 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ทรงกำหนดกฎใหม่ให้ทายาททุกพระองค์ของเจ้าชายวิลเลียมและพระชายาทรงมีคำนำพระนาม HRH และมียศเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง

อย่างไรก็ตามกฎเกณฑ์ดังกล่าวไม่มีผลบังคับใช้กับทายาทของเจ้าชายแฮร์รีและพระชายา

นายโรเบิร์ต ฮาร์ดแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านราชสำนักอังกฤษ ระบุว่า สาเหตุที่ทายาทของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ จะไม่ได้มียศเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายโดยอัตโนมัติ เนื่องจากเจ้าชายแฮร์รีไม่ได้อยู่ในสายตรงของการสืบราชสันตติวงศ์นั่นเอง

ตอนที่เจ้าชายแฮร์รีเข้าพีธีเสกสมรส สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์ดำรงพระยศเป็น ดยุคแห่งซัสเซกซ์, เอิร์ลแห่งดัมบาร์ตัน และบารอนคิลคีล

ตามธรรมเนียมปฏิบัติของราชสำนักอังกฤษ พระโอรสองค์โตของดยุคสามารถใช้พระยศที่ต่ำกว่าของพระบิดาได้

ดังนั้น หากเด็กที่จะถือกำเนิดขึ้นเป็นเด็กผู้ชาย ก็อาจดำรงพระยศเป็น "เอิร์ลแห่งดัมบาร์ตัน" แต่หากเป็นเด็กหญิงก็อาจมีบรรดาศักดิ์เป็น "เลดี้"

จะไม่รับบรรดาศักดิ์ได้ไหม
คำตอบคือ ได้ และเคยเกิดขึ้นมาแล้วตอนที่ เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี ที่ทรงไม่ให้พระโอรสและพระธิดา คือ ปีเตอร์ และซารา ดำรงพระยศใด ๆ เพราะทรงอยากให้ทั้งสองใช้ชีวิตแบบสามัญชนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ซารา ทินดอลล์ (นามสกุลหลังสมรสกับนักรักบี้ชื่อดัง ไมค์ ทินดอลล์) เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ ของอังกฤษว่า "พ่อแม่ของฉันไม่ให้เรามียศอะไร ดังนั้นเราจึงเติบโตขึ้นโดยมีชีวิตที่ค่อนข้างธรรมดา...เมื่อใดที่คุณมียศฐาบรรดาศักดิ์ ก็ยากที่จะสลัดมันออกไป"

มีโอกาสที่ทายาทผู้นี้จะได้ขึ้นเป็นราชาหรือราชินีหรือไม่
ได้ ในทางทฤษฎี แต่ปัจจุบันราชบังลังก์อังกฤษมีองค์รัชทายาทอยู่แล้วถึง 6 พระองค์ ได้แก่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์, เจ้าชายวิลเลียม, เจ้าชายจอร์จ, เจ้าหญิงชาร์ลอตต์, เจ้าชายลูอีส์ และเจ้าชายแฮร์รี

ทายาทของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน จะเป็นรัชทายาทอันดับที่ 7

ตามกฎหมายกำหนดให้ชาวอเมริกันที่พำนักอยู่ในสหรัฐฯ นาน 5 ปีขึ้นไป สามารถถ่ายทอดสัญชาติให้แก่บุตรธิดาได้

เนื่องด้วยทายาทพระองค์นี้จะประสูติในต่างแดน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงต้องไปแจ้งเกิดที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงลอนดอน

และการที่เจ้าชายแฮร์รี ทรงเป็นชาวอังกฤษ ทารกก็จะเป็นบุคคลที่มีสองสัญชาติ

คาดว่า ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ จะทรงสมัครเป็นพลเมืองอังกฤษ แต่กระบวนการนี้ต้องใช้เวลา โดยพระองค์จะต้องพำนักอยู่ในสหราชอาณาจักรอย่างน้อย 5 ปี

เมื่อทรงได้เป็นพลเมืองสหราชอาณาจักร ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ จะสามารถสละสัญชาติอเมริกันได้ แต่ทายาทพระโอรสหรือพระธิดาของพระองค์จะต้องรอจนถึงอายุ 16 ปี