คุณลุงส่งจดหมายสมัครงาน โดน HR ปฏิเสธยังไม่พอ!! กลับพูดจาดูถูก ไล่กลับบ้านเหมือนหมูหมา!!?

หลายคนมักคิดว่า คนที่ทำอาชีพเป็นทรัพยกรบุคคล หรือ HR เนี่ย ต้องมีความรู้ความสามารถในการมองคนให้ออก ดูว่าคนที่สมัครมามีนิสัยใจคออย่างไร เป็นคนดีมั้ย ปกติแล้วมันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละครับ แต่ถ้า HR กลับเป็นคนนิสัยแย่เสียเองล่ะ?

คุณลุงเวียดนามที่มาใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกาพร้อมลูกสาว ไม่อยากอยู่เฉยๆ กินเงินลูกสาวไปวันๆ จึงตัดสินใจร่อนจดหมายสมัครงานไปยังบริษัทแห่งหนึ่ง บอกเล่าประสบการณ์การทำงานไปตามปกติ แต่ HR ของบริษัทดังกล่าวชื่อว่า บรูซ ปีเตอร์สัน ส่งจดหมายตอบกลับปฏิเสธไม่รับเขาเข้าทำงาน พร้อมเขียนตอบมาอย่างไร้มารยาทว่า "ถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ผมจะส่งคุณกลับบ้านซะ!" ด้านลูกสาวของคุณลุง เอมิลี่ รู้สึกตกใจมากหลังทราบอีเมล์ตอบกลับที่พ่อเธอได้รับ เธอเล่าว่านี่มันเข้าข่ายเหยียดเชื้อชาติมาก เธอตัดสินใจโพสต์ภาพอีเมล์ตอบกลับของ HR ไร้มารยาทคนนี้ลงทวิตเตอร์ จนกลายเป็นกระแส

แต่ถึงอย่างนั้น พ่อของเธอกลับไม่ได้คิดโกรธโมโหอะไร แต่เธอไม่ยอม เพราะเธอเห็นว่านี่เป็นปัญหาที่ชาวเอเชียที่อพยพมาสหรัฐฯ เจออยู่เป็นประจำจนเป็นเรื่องปกติ เธอจะไม่ยอมให้ชาวเอเชียโดนเหยียดหยามแบบนี้อีกต่อไป เลยเผยแพร่เรื่องดังกล่าวลงโซเชียล จนเกิดเป็นกระแสโจมตี HR เหยียดเชื้อชาติอย่างหนัก จนมีชาวเน็ตคนหนึ่งอ้างว่าตัวเองทำงานอยู่สำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง สนใจจะรับว่าความคดีนี้ให้ฟรีๆ เพราะเธอรู้สึกรับไม่ได้กับการกระทำของ HR คนนี้ และได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ทางบริษัทรับทราบแล้ว หากพ่อของเอมิลี่อยากจะฟ้องร้องดำเนินคดี เธอจะจัดการให้

ไม่นานเท่าไหร่ เอมิลี่ก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจากบริษัทดังกล่าว ที่เขียนชี้แจงรายละเอียดนโยบายของบริษัท และกล่าวแสดงคำขอโทษอย่างสุดซึ้งพร้อมกับบอกว่าบริษัทได้ไล่นายปีเตอร์สันออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของโลกโซเชียล ว่าสามารถใช้เป็นกระบอกเสียงเพื่อทวงความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมได้ ท้ายสุดเอมิลี่ได้ทวิตภาพสมุดโน้ตของพ่อเธอ ว่าพ่อเธอก็พยายามเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างตั้งอกตั้งใจ แม้ว่าพ่อของเธอจะมีประสบการณ์การทำงานที่โชกโชน แต่พ่อของเธอก็ยังไม่หยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อต่อยอดการทำงานในอนาคตของเขาอีกด้วย