เฉลยแล้ว! ภาพลางร้าย ทะเลสาบสีเลือดในอินโดนีเซีย มั่วนิ่มทั้งเพ

เฉลยแล้ว! ภาพลางร้าย ทะเลสาบสีเลือดในอินโดนีเซีย มั่วนิ่มทั้งเพ

สมาชิกเฟซบุ๊กต่างพากันแห่แชร์ภาพ ทะเลสาบสีเลือดในอินโดนีเซีย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังแฟนเพจเฟซบุ๊กของศูนย์ข่าวแห่งหนึ่งนำมาเผยแพร่ พร้อมระบุข้อความว่า "ที่อินโดน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด โดยไม่ทราบสาเหตุ ที่อินโดเกิดเหตุลางร้ายอีกแล้ว” จนกลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเชียล

หลังจากที่โพสต์นี้ถูกแชร์ต่อไปเป็นวงกว้าง ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา

 บางส่วนให้ความเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง จะต้องเกิดเหตุร้ายอย่างแน่นอน ขณะที่บางส่วนคาดว่านี่อาจเป็นเพียงภาพตัดต่อ หรือไม่ก็อาจเกิดจากสารเคมีที่ทำให้ทะเลมีสีแดงได้แบบนี้

สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้ตรวจสอบที่มาของภาพดังกล่าว ก็พบว่า ภาพทั้งหมดนี้เป็นภาพเก่า ถูกเผยแพร่มาหลายปีแล้ว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น และน้ำสีแดงที่เห็นก็ไม่ใช่น้ำทะเล

ภาพ 2 จาก 3 ภาพ เคยเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ของสำนักข่าว กัวลาลัมเปอร์ โพสต์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ตามรายงานระบุว่า ชาวบ้านฮือฮาเมื่อแม่น้ำที่เกาะกาลีมันตันตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย เปลี่ยนสีเป็นสีแดงเลือด ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนพบว่า เกิดจากโรงงานผลิตสี ลักลอบล้างถังสีที่มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบ และได้ปล่อยของเสียลงในแม่น้ำ

ส่วนอีกภาพหนึ่ง เผยแพร่ไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 เพื่อใช้ประกอบบทความในเว็บไซต์


ซึ่งเล่าถึงทะเลสาบในป่า Raje Mandare เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ของสำนักข่าว Kampas.com ซึ่งกล่าวถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติของทะเลสาบแห่งนี้ หากตักน้ำขึ้นมาจะพบว่ามีสีค่อนข้างใส ไม่มีสีแดงเจือปน จึงคาดว่าเกิดจากสาหร่ายสีแดง มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อยืนยันว่าเหตุการณ์ในภาพไม่ใช่เรื่องจริง โดยให้เหตุผลตรงกับที่ทีมข่าวของเราได้ตรวจสอบ ไม่เกี่ยวข้องกับลางร้ายอย่างที่แชร์กันมา

เฉลยแล้ว! ภาพลางร้าย ทะเลสาบสีเลือดในอินโดนีเซีย มั่วนิ่มทั้งเพ


เฉลยแล้ว! ภาพลางร้าย ทะเลสาบสีเลือดในอินโดนีเซีย มั่วนิ่มทั้งเพ


เฉลยแล้ว! ภาพลางร้าย ทะเลสาบสีเลือดในอินโดนีเซีย มั่วนิ่มทั้งเพ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์