ก่อหวอดจลาจล ชาว‘เนปาล’ฉุนช่วยเหลือช้า บุกสภา-ล้อมรถบรรเทาทุกข์

ก่อหวอดจลาจล ชาว‘เนปาล’ฉุนช่วยเหลือช้า บุกสภา-ล้อมรถบรรเทาทุกข์

 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายนว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา

 โดยล่าสุดทีมกู้ภัยขององค์กรเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศของสหรัฐหรือ ยูเสด (USAID) สามารถช่วยเหลือ พีมา ลามา เด็กชายชาวเนปาลวัย 15 ปี ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของโรงแรมฮิลตันความสูง 7 ชั้น ภายในกรุงกาฐมาณฑุมานาน 5 วัน แล้วนำตัวขึ้นเปลสนามในสภาพที่ใบหน้าเต็มไปด้วยฝุ่น ท่ามกลางเสียงปรบมือและกำลังใจของประชาชนในพื้นที่ และขณะนี้หน่วยกู้ภัยกำลังตรวจสอบเพื่อติดตามข้อมูลเพิ่มเติม นับเป็นผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์รายล่าสุด หลังจากหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินของฝรั่งเศสดึงร่างของชายวัย 28 ปีออกมาจากกองซากปรักหักพังเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รวมถึงดึงร่างเด็กทารกวัย 4 เดือนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารนาน 4 วันเมื่อวันพุธ

ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตตามใต้ซากปรักหักพัง แต่ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญหลายเรื่อง ทั้งฝนที่ตกลงมา หิมะถล่ม

 ทำให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถออกบินไปยังพื้นที่ประสบภัยในย่านชนบทของเนปาลได้ ประกอบกับเกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อคอีกหลายครั้ง ทำให้การกู้ภัยในหลายพื้นที่ต้องล่าช้า ถึงขนาดที่หัวหน้าศูนย์จัดการภัยพิบัติของกระทรวงมหาดไทยเนปาลกล่าวว่า อาจจะไม่มีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม พยากรณ์อากาศคาดว่า สภาพอากาศจะเริ่มดีขึ้นนับจากนี้

ส่วนความไม่พอใจของชาวบ้านต่อปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัยของรัฐบาลที่ดำเนินไปอย่างล่าช้ายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

โดยมีผู้ไปประท้วงที่ด้านนอกรัฐสภา ชาวบ้านไปปิดถนนขวางรถบรรทุกที่กำลังนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่าย โดยเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างรวดเร็วมากขึ้นในการแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นที่หลั่งไหลมาจากต่างประเทศ แต่กลับถึงมือผู้ที่ต้องการอย่างล่าช้า มีรายงานว่าในบางพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ยังไม่มีทีมกู้ภัยหรือสิ่งของบรรเทาทุกข์ใดเข้าถึง ประชาชนต้องอาศัยอยู่กลางแจ้งโดยไม่มีที่กำบัง ขณะที่อีกหลายพื้นที่ยังคงมีร่างของผู้เสียชีวิตกองอยู่ใต้ซาก โดยเฉพาะที่กรุงกาฐมาณฑุ ผู้ประสบภัยยังคงอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม ทำให้ยังมีประชาชนทยอยออกจากพื้นที่มากกว่า 100,000 คนแล้ว แต่ก็ยังประสบปัญหาขาดแคลนรถโดยสารในการเดินทางออกนอกพื้นที่ รวมถึงยังขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย

ความล้มเหลวของรัฐบาลในการส่งความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรุงกาฐมาณฑุ


ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงการช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลนอกหุบเขากาฐมาณฑุ เช่นที่เมืองสินธุปัลโชค โทละขะ นุวะโกฏ ธาดิง โกร์คา ราเมชหับ และกอร์ขา ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวและได้รับความเสียหายอย่างหนัก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์