ตะลึง แฉภาพผู้โดยสารผวาจัด กลัวติดอีโบล่าสวมชุดป้องกันแน่นหนา

ตะลึง แฉภาพผู้โดยสารผวาจัด กลัวติดอีโบล่าสวมชุดป้องกันแน่นหนา

ตะลึง แฉภาพผู้โดยสารผวาจัด กลัวติด"อีโบล่า"สวมชุดป้องกันแน่นหนา"ขณะรอเครื่องออกที่สนามบิน (ชมภาพ)


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ว่า ผู้โดยสารรายหนึ่งสร้างความตะลึงให้แก่ผู้คนทั่วไป ภายหลังสวมชุดป้องกันการติดเชื้อไวรัสเหมือนเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เนื่องจากกลัวว่าจะติดเชื้ออีโบล่าจากบุคคลอื่น ณ สนามบินแห่งหนึ่งของสหรัฐ


รายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่สนามบินดัสเลส ของกรุงวอชิงตัน
 
โดยผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งได้สวมชุดดังกลล่าว ซึ่งรวมทั้งหน้ากาก ขณะนั่งรอเครื่องออกที่บริเวณที่พักผู้โดยสารขาออก โดยชุดดังกลาวสังเกตได้ว่า คล้ายคลึงกับชุดป้องกันการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาก ขณะที่พฤติกรรมนี้ยังได้สร้างความช็อกแก่ผู้โดยสารรายอื่น ๆ หลังจากมีข่าวว่า พยาบาลรายที่สองของสหรัฐได้ติดเชื้ออีโบล่าในเมืองดัลลาสด้วย ขณะที่ชาวอเมริกันรายแรกที่ติดเชื้อ คือ นายเอริก ดันแคน ยังได้ถูกส่งตัวไปยังรัฐเท็กซัส โดยมีจุดแวะพักที่สนามบินแห่งนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน นางสาวนีน่า ฟาม ผู้ป่วยเชื้อไวรัสอีโบลารายแรกในสหรัฐได้ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลเท็กซัส เฮลท์ เพรสไบทีเรียนในเมืองดัลแคน
 
มายังสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐหรือเอ็นไอเอช ที่ตั้งอยู่ในเมืองบาเธสดา รัฐแมริแลนด์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้นางพยาบาลคนดังกล่าวเป็นหนึ่งในทีมดูแลนายโธมัส อีริค ดันแคน ผู้ป่วยเชื้อไวรัสอีโบลาจากประเทศไลบีเรียที่เดินทางเข้ามายังสหรัฐก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อน ทว่าโชคร้ายที่นางสาวฟาม และนางสาวแอมเบอร์ วินสัน พยาบาลอีกคนหนึ่งกลับติดเชื้อไวรัสอีโบลาเสียเอง


 โดยนายแพทย์แอนโทนีย์ ฟอซี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนของสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งสหรัฐกล่าวว่า
 
′เราจะให้การรักษาที่ดีที่สุดกับเธอ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของเรานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคติดต่อและผู้ป่วยที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่ของเราทุกคนได้รับการฝึกสอนมาเป็นอย่างดีในเรื่องการป้องกันไม่ใช้เชื้อโรคแพร่ระบาดไปยังผู้อื่น′


 ทั้งนี้ ทางการสหรัฐยังคงมีการเฝ้าจับตาเจ้าหน้าที่แพทย์อีกประมาณ 70 คนที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดในการดูแลนายดันแคน ซึ่งมีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัสอีโบลาเช่นเดียวกัน โดยเชื้อไวรัสดังกล่าวจะแสดงอาการในช่วงเวลาระหว่าง 2 - 21 วัน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์