แห่ถู-ขอเลขเด็ด รถตู้เฮี้ยน หน้าบ้าน´ทักษิณ´

เรื่องราวเหนือฟ้าใต้บาดาล ชวนขนหัวลุก ผีรถตู้ เฮี้ยนให้เลขเด็ด

จนมีคนถูกหวยรวยเบอร์

กันหลายรายและถูกติดต่อกันหลายงวด เป็นที่ร่ำลือแก่ชาวบ้านย่านบางพลัด ทำให้นักเลงหวยแตกตื่นแห่ไปขอหวยกันจำนวนมาก เป็นที่เปิดเผยขึ้นเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.)

หลังจากมีชาวบ้านย่าน

สี่แยกบางพลัดแจ้งมายัง ไทยรัฐ ให้ไปพิสูจน์และสืบหาเรื่องราวความเฮี้ยนของรถตู้ผีสิงที่จอดอยู่ใต้สะพานข้ามแยกบางพลัด โดยรถตู้คันดังกล่าวเป็นรถที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน และมีผู้ลากซากรถมาตั้งทิ้งไว้

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปดู

พบว่าซากรถตู้ถูกจอดทิ้ง ไว้ที่ใต้สะพานข้ามแยกบางพลัด ฝั่งถนนสิรินธรขาออก มุ่งหน้าแยกตลิ่งชัน โดยเป็นซากรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า ไฮเอซ รุ่นหัวจรวด สีเขียวอ่อน จอดอยู่ในสภาพพังยับ ยางแตกทั้ง 4 ล้อ กระจกรถรอบคันแตกหมด

ตัวถังรถช่วงกลางฝั่งคนขับ

มีร่องรอยการถูกชนอย่างรุนแรงจนยุบไป ถึงที่นั่ง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าภายในรถตู้กลับมีเสื้อผ้าของเด็กแขวนอยู่ไม่ต่ำกว่าสิบชุด นอกจากนี้ ยังมีขนม นมกล่อง ตุ๊กตา ธูปเทียน และพวงมาลัยแห้ง แขวนอยู่เต็มไปหมด ส่วนบริเวณยางรถและบริเวณคอนโซลหน้ารถ พบแป้งสีขาวเป็นหย่อมๆ

นายกำพล ศรีอนันต์ อายุ 58 ปี

ช่างประจำอู่ รถยนต์บีบีเอ็ม อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่รถตู้คันดังกล่าวจอดทิ้งอยู่ เผยว่า เมื่อราว 3-4 ปีก่อน รถตู้คันนี้ประสบอุบัติเหตุที่บริเวณหน้าโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ เชิงสะพานซังฮี้ มีผู้เสียชีวิตหลายคน ไม่ระบุว่ามีเด็กอยู่ในรถด้วยหรือไม่

หลังจากนั้นตำรวจ

สน.บางพลัดได้นำซากรถมาทิ้งไว้ที่ใต้สะพานข้ามแยก ซึ่งใช้เป็นจุดจอดรถอุบัติเหตุ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีเจ้าของรถมาลาก กลับไปซ่อมแซม ทั้งที่สภาพของรถตู้คันนี้ในช่วงแรกยังไม่เสียหายมากนัก ช่วงแรกๆ ยังไม่มีเสียงเล่าลือเรื่อง

ความเฮี้ยนของรถตู้คันนี้

มีเพียงผู้หญิงคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่าเคยข้ามถนนบริเวณสี่แยกแล้วเห็นรถจอดอยู่ ในรถมีเด็กนั่งอยู่เต็มไปหมด แต่เมื่อหันกลับมาก็ไม่เห็นเด็กๆกลุ่มดังกล่าว เห็นเพียงซากรถธรรมดา

นายกำพลกล่าวอีกว่า

หลังจากนั้นช่วงปลายปี 49 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัดได้ลากซากรถตู้คันนี้ไป เก็บไว้บริเวณที่ดินว่างเปล่าในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ซึ่งบริเวณนั้นมีต้นโพธิ์และต้นไทรขึ้นอยู่ และมีชาวบ้านแห่ ไปขอเลขเด็ดกันจำนวนมากอยู่แล้ว เมื่อรถตู้คันนี้ถูกนำไปทิ้งไว้

ก็มีเสียงร่ำลือว่ามีคนเห็น

วิญญาณของเด็กในรถ จึงมีการนำธูปเทียนมากราบไหว้ หลังจากนั้นก็มีคนถูกหวยต่อเนื่องกันหลายคน จนทำให้คนเชื่อว่าในรถมี วิญญาณของเด็กสิงสถิตอยู่และเป็นผู้นำโชคลาภมาให้ จากนั้นก็เริ่มมีคนที่ถูกหวยนำเสื้อผ้าเด็ก ขนม นมเนย หรือแม้แต่เกมกด มาเซ่นไหว้กันจำนวนมาก

ช่างซ่อมรถยนต์ประจำอู่บุญส่งกล่าวอีกว่า

ต่อมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ทาง สน.บางพลัดได้ลากรถตู้คันนี้กลับมาไว้ที่ใต้สะพานข้ามแยกตามเดิม เนื่องจากทางเจ้าของที่ดินที่ตำรวจนำรถตู้ไปทิ้งไว้ไม่พอใจที่มีคนแห่ มาขอหวยกันจำนวนมาก บางรายถูกหวยได้เงินก้อนใหญ่ มีการนำโต๊ะจีนมาเลี้ยง

และมีการรำแก้บน

ทำให้เกิดความวุ่นวายในบริเวณนั้น เจ้าของที่ไม่พอใจ ทำให้ซากรถตู้ ต้องกลับมาตั้งอยู่ใต้สะพานข้ามแยกบางพลัดอีกครั้ง แต่แฟนหวยก็ยังไม่ละความพยายาม ตามมากราบไหว้ เพราะเชื่อเสียงเล่าลือเรื่องความเฮี้ยนของรถตู้คันนี้ โดย เฉพาะ

ช่วงใกล้วันหวยออก

นั้นจะมีนักนิยมหวยเดินทางมาเป็นกลุ่มๆ บางรายถึงกับมาทำพิธีขอหวยกลางสี่แยกก็มี ส่วนตัวนั้นไม่เคยพบเห็นวิญญาณของเด็กตามเสียงเล่าลือ แต่เมื่อไม่นานนี้ก็มีเหตุที่ทำให้ชาวบ้านวิพากษ์-วิจารณ์กันขรม

เมื่อรถเมล์เล็กคันหนึ่ง

ขับมาจอดอยู่ใกล้กับซากรถตู้ ปรากฏว่าอยู่ดีๆ รถเกิดไฟไหม้ แล้ววิ่งออกไปเอง ทั้งๆที่ไม่มีคนขับ ยิ่งทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเฮี้ยนของรถตู้คันนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น

ด้านนักเล่นหวยรายหนึ่ง

ขอสงวนนาม เผยกับผู้สื่อข่าวหลังเดินทางมาขอเลขเด็ดจากรถตู้ผีสิงว่าใน ช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ว่า เคยถูกหวยจากเลขเด็ดของรถตู้ ผีสิงคันนี้ หลังจากนั้นมีเด็กมาเข้าฝันว่าอยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ จึงนำเสื้อผ้าเด็กมาเซ่นไหว้ เชื่อว่าคงเป็นวิญญาณของ

เด็กที่เสียชีวิตและยังไม่สามารถ

ไปผุดไปเกิด เพราะหลังเกิดอุบัติเหตุไม่มีการทำพิธีอัญเชิญวิญญาณ สำหรับงวดนี้ได้เลขเด็ดจากการขูดยางล้อรถตู้คันนี้ไปแล้ว แต่ ไม่สามารถบอกได้ เพราะกลัวว่าจะทำให้เสียโชค

ต่อมาผู้สื่อข่าว

ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บางพลัด และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ถึงที่มาของรถตู้คันนี้ ได้รับทราบข้อมูลว่า รถตู้คันนี้เกิดอุบัติเหตุเมื่อราว 3 ปีก่อน โดยเหตุเกิดขึ้นบริเวณเยื้องกับโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ รถตู้ซึ่งเป็นรถทะเบียน จังหวัดยโสธร

คาดว่าจะเดินทางมาที่ กทม.

ถูกรถสิบล้อชนที่บริเวณด้านข้างฝังคนขับทำให้มีผู้เสียชีวิต เป็นชายวัยกลางคน ทั้งนี้ รถสิบล้อคู่กรณียังได้พุ่งเข้าไปชนอาคารพาณิชย์ริมถนน และทับรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ขณะที่คนขับรถสิบล้อเองก็บาดเจ็บ ถูกงัดออกมาจากซากรถ

สำหรับเหตุที่ต้องนำไป

จอดไว้ในที่ดินว่างเปล่าในซอยจรัญ ฯ 69 เป็นเพราะ ช่วงที่มีเหตุการณ์ คาร์บอมบ์ เมื่อประมาณกลางปี 49 นั้น ตำรวจได้นำซากรถที่จอดข้างทางไปไว้ที่อื่นทั้งหมด

เพื่อความปลอดภัย

ภายหลังทราบว่ามีคนมากราบไหว้ขอหวยรถคันนี้กันมาก และเจ้าของที่ดินก็ไม่อยากให้ตั้งไว้ จึงต้องลากกลับมาไว้ที่บริเวณใต้สะพานข้ามแยกตามเดิม

อย่างไรก็ตาม

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านในซอยจรัญฯ 69 คนหนึ่งว่า สำหรับซากรถตู้คันนี้ เดิมเคยจอดไว้ที่ปากซอยจรัญฯ 69 ซึ่งเป็นซอยทางเข้าบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเป็นภาพที่ไม่สวยงาม

เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ

ต้องผ่านเข้าออกในซอยนี้ทุกวัน จึงเคลื่อนย้ายซากรถตู้ไปไว้ในที่ดินว่างเปล่า แต่ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณก็ประสบปัญหาทางการเมือง จนต้องกระเด็นตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีและระเหเร่ร่อนไปอยู่ในต่างแดน ทำให้ชาวบ้านหลายคนร่ำลือและวิจารณ์กันว่า อาจเป็นเพราะอาถรรพณ์ของรถตู้คันนี้ก็เป็นได้

ส่วนเรื่องราวลึกลับสยองขวัญ

ที่เกิดขึ้นกับนักเลงหวยรายหนึ่งจนถึงกับช็อกตาย เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ต.เรวัติ สิริตื้นลี ร้อยเวร สภ.อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งมีคนตายที่หมู่ 8 ต.วังใหญ่

จึงไปตรวจสอบพบศพ

ชายไทยอายุประมาณ 60 ปี ใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว สวมรองเท้าหนังสีดำ นอนอยู่ใกล้ต้นมะขามใหญ่ ที่หลังต้นมะขามมีศาลเจ้าเก่าตั้งอยู่ ค้นในตัวไม่พบหลักฐานอะไร มีเพียงกระดาษจดตัวเลข 104, 904 และ 53

นายสนม พิพากรณ์ อายุ 40 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 7 ต.ไผ่สิงห์ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ให้การว่ามีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างวินตลาดชุมแสง ผู้ตายว่าจ้างให้มาส่งที่จุดเกิดเหตุในราคา 200 บาท เมื่อมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงลงมือจุดธูปไหว้ ขอหวยจากศาลเจ้าพ่อต้นมะขามใหญ่ที่ลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์

แต่ระหว่างนั้นมีเสียงตุ๊กแกร้อง

ติดต่อกัน 3 ครั้ง และมีนกเค้าแมวตัวเขื่องบินมาเกาะที่ต้นมะขาม พร้อมทั้งมีเสียงหมาเห่าหอนอย่างโหยหวนเป็นที่น่าสะพรึงกลัว พอสิ้นเสียงหมาหอนตนหันมามองก็เห็นว่าชายดังกล่าวล้มลงนอนกับพื้นเสียชีวิตไปแล้ว

ขณะที่ ร.ต.ต.เรวัติ ร้อยเวร

เจ้าของคดีเปิดเผยว่าจากการตรวจที่เกิดเหตุศพนอนหงายข้างต้นมะขามยักษ์ เก่าแก่อายุนับร้อยปีขนาด 3 คนโอบ ข้างศพมีกล่องเทียนและธูปที่นำมาจุดกราบไหว้ขอหวย โคนต้นมีเนินดินใหญ่

ชาวบ้านเล่าว่าในเวลาค่ำคืน

บริเวณนี้มีสภาพน่ากลัวมาก มักมีเหตุการณ์แปลกๆให้เห็นเสมอ สำหรับชายที่เสียชีวิต แพทย์ รพ.ท่าตะโก ลงความเห็นว่าเกิดจากตกใจกลัวสุดขีดจนช็อกหัวใจวายเสียชีวิต

ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลก

มีชาวบ้านพากันไปที่วัดท่าหมื่นราม หมู่ 13 ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง ขอดูรูปที่นางเพชร เลี้ยวเวียน อายุ 36 ปี ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเรือตะเคียนโบราณอายุนับร้อยปี แล้วปรากฏภาพลักษณะคล้ายใบหน้าหญิงสาวผมยาวหันด้านข้างนอนอยู่ในเรือ

ทุกคนที่ได้เห็นต่างยกมือไหว้ท่วมหัว

เชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ตะเคียนที่มีคนทรงเจ้าเข้าทรงบอกก่อนหน้านี้ โดยนายหวัง ราวิน อายุ 45 ปี ผู้พบเรือเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ออกไปทอดแหกับเพื่อนที่คลองชมพูใกล้หมู่บ้าน

เห็นมีหางเรือโผล่ขึ้นมากลางคลอง

จึงช่วยกันขุดนำเรือขึ้นมา ใช้เวลา 3 วัน จากนั้นทำพิธีบอกกล่าวเจ้าของเรือและเจ้าที่เจ้าทางก่อนมอบให้วัดท่าหมื่นราม โดยเป็นเรือขุดจากต้นตะเคียนยาว 8 เมตร

ขณะที่ชาวบ้านอีกคนคือ

นายทวี ทิวทอง อายุ 54 ปี เล่าว่า หลานสาวชื่อ น.ส.ต้อย อายุ 16 ปี พูดจาลบหลู่ชาวบ้านที่พากันไปไหว้เรือโบราณว่าไร้สาระ กราบไหว้ไม้ผุๆ เชื่อในสิ่งไม่เข้าท่า

ปรากฏว่าตอนกลางคืน

หลานสาวถูกผีอำจนนอนไม่ได้ทั้งครอบครัว รุ่งเช้าต้องไปจุดธูปขอขมา หลานสาวถึงหายเป็นปกติขณะเดียวกันชาวบ้านต่างถิ่นมาขูดขอหวยหาเลขเด็ด แต่คนในหมู่บ้านนี้ไม่มีใครกล้าทำ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ