แก้บนสุดพิสดาร แก้ผ้าหน้าพระพุทธรูป

ฮือฮากันทั้งบางชาวบ้านแก้ผ้า

แก้บนสุดพิสดาร แก้ผ้าหน้าพระพุทธรูป


รำแก้บนต่อหน้า"หลวงพ่อขาว"พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ของชาววิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองเป็นพุทธรูปเก่าแก่อยู่ในวัดร้าง พ่อเฒ่าวัย 71 ปี เผยเป็นคนเริ่มแก้บนแบบพิสดารเมื่อครั้งมาขอให้ช่วยไม่ติดทหารเกณฑ์ ปรากฏว่าได้ผลจึงต้องมาเปลือยกายรำจำนวน 3 รอบ เรียกว่า "งิ้วแก้ผ้า" จากนั้นก็เริ่มมีคนอื่นทำตาม มีบางคนเหนียมมาขอพรแล้วขอแก้บนด้วยวิธีอื่น แต่ไม่ได้สมปรารถนา ช่วงหลังจึงมีแต่คนมาขอแก้บนด้วยการเปลือยกายเป็นหลัก ส่วนการแก้บนทำตอนกลางคืนนอกจากเปลือยกายรำแล้วจะมีเพื่อนคอยเคาะจังหวะด้วย

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 30 ส.ค.


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่วิหารหลวงพ่อขาว ต.หลักแก้ว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ตั้งอยู่ใกล้สถานีอนามัยตำบลและโรงเรียนวัดหลักแก้ว ริมถนนสายบ้านหลักแก้ว-บางจัก หลังรับแจ้งว่าจะมีชาวบ้านมาเปลือยกายรำแก้บนถวาย หลังจากที่ได้บนบานศาลกล่าวต่อหลวงพ่อขาวแล้วสมดังปรารถนา ชาวบ้านต่างเล่าลือสืบต่อกันมาถึงความศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์และให้ความเคารพนับถือ แต่การแก้บนมีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างจากที่อื่นๆ คือการเปลือยกายรำแก้บน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า"งิ้วแก้ผ้า"ถือเป็นพิธีกรรมนิยมที่สืบต่อกันมานานแล้ว

บริเวณดังกล่าวเป็นเนินดินติดทุ่งนา


ลักษณะเป็นวัดร้างมีซากปรักหักพังของอิฐแดง มีวิหารขนาดเล็กภายในประดิษฐานหลวงพ่อขาว พระพุทธรูปปูนปั้นสีขาวปางเลไลยก์ พุทธศิลป์สมัยกรุงศรีอยุธยา สูงประมาณ 2 เมตร ฐานกว้าง 1 เมตร นอกจากนี้มีพระพุทธรูปอื่นๆ รูปปั้นฤๅษี ที่น่าสังเกตคือมีเครื่องสักการะต่างๆ จำนวนมาก นอกจากนี้ รอบๆ วิหารพบปี๊บกระป๋อง ไม้ไผ่ และไม้รวกยาว 1 ศอกจำนวนหนึ่ง และไม่มีร้านค้าเขียนป้ายขายสิ่งของแก้บนแต่อย่างใด

ระหว่างผู้สื่อข่าวกำลังสังเกตการณ์อยู่นั้น

แก้บนสุดพิสดาร แก้ผ้าหน้าพระพุทธรูป


มีชายหนุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี จำนวน 3 คน ชายวัยกลางคนอีก 1 คน เดินทางมายังวิหารดังกล่าวพร้อมจุดธูปเทียนบูชาโดยพูดเป็นทำนองภาษาจีนว่า "หลวงพ่อขอรับ อั้วชื่อนายทับที่ได้มาบนว่าไม่ให้ลูกชายและหลานชายถูกทหาร มาขอแก้บนให้หลวงพ่อในคืนนี้" จากนั้นทั้ง 3 คน ได้เปลื้องผ้าเปลือยกายล่อนจ้อนร่ายรำรอบองค์พระจำนวน 3 รอบ ลักษณะการร่ายรำคล้ายพิธีจีน โดยมีชายหนุ่มอีก 1 คน เคาะปี๊บให้จังหวะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงเสร็จสิ้น

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามชื่อนามสกุล และรายละเอียดในการมาแก้บนดังกล่าว


ชายวัยกลางคนอ้างว่าชื่อทับ มาจากจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พาลูกและหลานชายมาแก้บน ที่ได้บนบานไว้ไม่ให้ถูกทหารเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นแรงศรัทธาที่มาพร้อมแรงปรารถนาในสิ่งที่ต้องการ ชาวบ้านที่นี่และจังหวัดใกล้เคียงทราบถึงความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดี ร้อยทั้งร้อยมาแก้บนด้วยงิ้วแก้ผ้า แต่ต้องเป็นเวลากลางคืนที่ดึกสงัดไม่มีผู้คน ไม่ยังนั้นอุจาดตาแน่ ซึ่งชาวบ้านที่นี่หากได้ยินเสียงเคาะปี๊บจะรู้ทันทีว่ามีคนมาแก้บน

นายทองหล่อ ปัทมโรจน์ อายุ 71 ปี


อยู่บ้านเลขที่ 54/1 ต.หลักแก้ว ผู้เฒ่าที่อาศัยอยู่ย่านนี้มานานหลายสิบปี กล่าวว่า บริเวณที่ประดิษฐานหลวงพ่อขาว เดิมเป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมากลายสภาพเป็นวัดร้างและเป็นสุสานฝังศพทารกและสถานที่เลี้ยงวัวควาย สำหรับหลวงพ่อขาวเดิมทีมีเพียงพระเศียรกับพระอุระโผล่ขึ้นมาจากดิน แต่ชาวบ้านยังไม่ทราบถึงความศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งเมื่อหลายสิบปีก่อน ในต้นเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นวันคัดเลือกทหาร ตนเกิดอุตริมาบนบานว่าหากน้องชายไม่ถูกทหารจะมาเล่นงิ้วแก้ผ้า หรือเปลือยกายรำแก้บนให้ 1 โรง ปรากฏว่าน้องชายไม่ถูกทหารจริงๆ จึงพาพรรคพวกมาเปลือยกายแก้บน เมื่อมีคนถามก็เล่าให้ฟัง

นายทองหล่อ กล่าวในท้ายที่สุด


"ต่อมาจึงเริ่มมีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทำเลียนแบบ และส่วนใหญ่จะได้สมปรารถนา กระทั่งข่าวเรื่องนี้ก็สะพัดไปจนมีชาวบ้านจากถิ่นอื่นมาขอพร มีการบนและแก้บนด้วยวิธีอื่นๆ เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าหากบนด้วยงิ้วแก้ผ้าจะสมหวังมากกว่าบนด้วยวิธีอื่น"

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์